ประวัติ
สโมสรฟุตบอลบาเลนเซียก่อตั้งเมื่อวันที่ 5 มีนาคม ค.ศ. 1919 และได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการเมื่อ 18 มีนาคม ค.ศ. 1919 โดยมี Octavio Augusto Milego Díaz เป็นประธานของสโมสรคนแรก สโมสรที่เล่นเกมการแข่งขันอย่างเป็นทางการครั้งแรกออกไปเยือนเมื่อ 21 พฤษภาคม ค.ศ. 1919 โดยนัดแรกชนะ คิมนัสตีโก ไป 1-0
บาเลนเซีย ย้ายเข้ามาอยู่ในสนามกีฬาเม็สตัลยาในปี 1923 หลังจากเล่นแมตช์เหย้าสนามอัลคีโรสตั้งแต่ 7 ธันวาคม ค.ศ. 1919 นัดแรกที่เมสตายา เจอกับกัสเตยอนกัสตาเลีย โดยผลเสมอไป 0-0 ในการแข่งขันวันหลังจากที่อื่นบาเลนเซียชนะฝ่ายค้านเดียวกัน 1-0 วาเลนเซียได้รับรางวัลชนะเลิศระดับภูมิภาคในปี 1923 และเป็นสิทธิ์ที่จะเล่นในประเทศ โกปาเดลเรย์ การแข่งขันถ้วยเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์
ยักษ์ใหญ่แห่งสโมสรฟุตบอลในสเปน
ความสำเร็จกับถ้วยยุโรป
การกลับมาของไอ้ค้างคาวพร้อมกับความสำเร็จครั้งใหม่ของสโมสร
และหลังจากยุคปี 2000 บาเลนเซียยังเป็นทีมระดับหัวแถวของฟุตบอลสเปน โดยได้มีคู่แข่ง 2 สโมสรคือ สโมสรฟุตบอลเรอัลมาดริด และ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา ที่ยังเป็นเจ้าของแชมป์ ลาลิกา และ ถ้วยยุโรปต่างๆ มากที่สุดในลีกประเทศสเปน แล้วในปี ค.ศ. 2001ทางสโมสรบาเลนเซียได้ ให้ ราฟาเอล เบนีเตซ ผู้จัดการทีมชาวสเปน ได้เข้ามารับตำแหน่งผู้จัดการทีม แทน เฮคเตอร์ คูเปอร์ เบนีเตซนำทีมสโมสรฟุตบอลบาเลนเซีย คว้าแชมป์ ลาลิกา ได้ในฤดูกาล 2001-02 ด้วยการมีและซื้อนักฟุตบอลตัวเก่งหลายคนอาทิ ปาโบล ไอมาร์, ซานติอาโก คานิซาเรส, จอห์น คาเรล, อาเมดีโอ คาโบนิ และต่อมาในฤดูกาล 2003-04 ราฟาเอล เบนีเตซนำทีมคว้าแชมป์ได้ถึง 2 สมัย คือ ลาลิกา และ ยูฟ่าคัพ โดยในฤดูกาลนี้เบนีเตซนำลูกทีมฝ่าฝันอุปสรรคต่างๆในการเจอทีมใหญ่ๆใน ยูฟ่าคัพ ทั้ง บอดิอูกซ์ , บียาเรอัล สโมสรเพื่อนบ้านของตน , นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด สโมสรฟุตบอลจากพรีเมียร์ลีก อังกฤษ และเข้าไปชิงกับ ออแล็งปิกเดอมาร์แซย์ สโมสรฟุตบอลชื่อดังของ ฝรั่งเศส โดยบาเลนเซียชนะไป 2-0 ซึ่งเป็นความสำเร็จครั้งใหญ่ของสโมสร
สนามเหย้า
บรรยากาศในสนามเม็สตัลยาบาเลนเซียลงเล่นในปีแรกที่อัลคีโรสสเตเดียม แต่ได้ย้ายไปที่สนามกีฬาเม็สตัลยาตั้งแต่ปี ค.ศ. 1923 ในช่วงทศวรรษ 1950 นั้น มีการปรับปรุงเม็สตัลยาขึ้นอีกครั้ง โดยเพิ่มจำนวนที่นั่งเป็น 45,000 ที่นั่ง ทุกวันนี้สามารถจุผู้ชมได้ประมาณ 53,000 คน อย่างไรก็ตาม บาเลนเซียมีกำหนดว่าจะย้ายไปยังสนามแห่งใหม่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองบาเลนเซียในอนาคต โดยนอว์เม็สตัลยาอันเป็นชื่อของสนามแห่งนี้จะจุผู้ชมได้ประมาณ 75,000 คน และจะได้รับการจัดอันดับจากฟีฟ่าให้เป็นสนามระดับ 5 ดาว
เอกลักษณ์ของสโมสร
ชุด
เดิมที ชุดแข่งของบาเลนเซียประกอบด้วยเสื้อเชิ้ตสีขาว กางเกงขาสั้นสีดำ และถุงเท้าสีเดียวกัน อย่างไรก็ตาม ตลอดหลายปีที่ผ่านมา เสื้อเขิ้ตสีขาวได้ถูกตกแต่งด้วยลวดลายสีดำด้วย ขณะที่ ชุดเยือนมักจะเป็นสีส้ม ขณะที่ชุดสำรองชุดที่สามมักมีสีจากตราสโมสรมาใช้ ได้แก่ สีเหลือง สีส้มเลือด และสีน้ำเงิน
From 1980 to present |
---|
Period | Kit manufacturer | Shirt sponsor |
---|
1980–1982 | Adidas | None |
1982–1985 | Ressy |
1985–1990 | Rasan | Caja Ahorros Valencia |
1990–1992 | Puma |
1992–1993 | Mediterránia |
1993–1994 | Luanvi |
1994–1995 | Cip |
1995–1998 | Ford |
1998–2000 | Terra Mítica |
2000–2001 | Nike |
2001–2002 | Metrored |
2002–2003 | Terra Mítica |
2003–2008 | Toyota / Panasonic Toyota Racing |
2008–2009 | Valencia Experience |
2009–2011 | Kappa | Unibet |
2011–2014 | Joma | Jinko Solar |
2014–2016 | Adidas | beIN Sports |
2016–2017 | |
2017–2019 | BLU Products |
2019–present | Puma | bwin |
ผู้เล่น
ทีมชุดปัจจุบัน
- ณ วันที่ 1 กันยายน 2023[3]
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
ทีมสำรอง
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
ยืมตัวออก
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
ผู้เล่นที่ถูกยืมตัว
หมายเหตุ: ธงชาติที่ปรากฏบ่งบอกให้ทราบว่าผู้เล่นคนนั้นสามารถเล่นให้กับชาติใดตามกฎของฟีฟ่าตามความเหมาะสม เพราะผู้เล่นบางคนอาจถือสองสัญชาติ
เกียรติประวัติ
ระดับประเทศ
ระดับทวีปยุโรป
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น