แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน
แอนดรูว์ เฮนรี รอเบิร์ตสัน (อังกฤษ: Andrew Henry Robertson; เกิด 11 มีนาคม ค.ศ. 1994) เป็นนักฟุตบอลชาวสกอตแลนด์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองหลังในพรีเมียร์ลีก ให้กับลิเวอร์พูลและฟุตบอลทีมชาติสกอตแลนด์
![]() รอเบิร์ตสันในงานพาเหรดชัยชนะหลังลิเวอร์พูลชนะยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 | |||
ข้อมูลส่วนตัว | |||
---|---|---|---|
ชื่อเต็ม | แอนดรูว์ เฮนรี รอเบิร์ตสัน[1] | ||
วันเกิด | [2] | 11 มีนาคม ค.ศ. 1994||
สถานที่เกิด | กลาสโกว์ สกอตแลนด์ | ||
ส่วนสูง | 5 ft 10 in (1.78 m)[3] | ||
ตำแหน่ง | แบ็กซ้าย | ||
ข้อมูลสโมสร | |||
สโมสรปัจจุบัน | ลิเวอร์พูล | ||
หมายเลข | 26 | ||
สโมสรเยาวชน | |||
–2009 | เซลติก | ||
2009–2012 | ควีนส์พาร์ก | ||
สโมสรอาชีพ* | |||
ปี | ทีม | ลงเล่น | (ประตู) |
2012–2013 | ควีนส์พาร์ก | 34 | (2) |
2013–2014 | ดันดียูไนเต็ด | 36 | (3) |
2014–2017 | ฮัลล์ซิตี | 99 | (3) |
2017– | ลิเวอร์พูล | 218 | (10) |
ทีมชาติ‡ | |||
2013–2015 | สกอตแลนด์ อายุไม่เกิน 21 ปี | 4 | (0) |
2014– | สกอตแลนด์ | 67 | (3) |
*นัดที่ลงเล่นและประตูที่ยิงให้แก่สโมสรเฉพาะลีกในประเทศเท่านั้น ข้อมูลล่าสุด ณ วันที่ 21:06, 19 พฤษภาคม 2024 (UTC) ‡ ข้อมูลการลงเล่นและประตูให้แก่ทีมชาติล่าสุด ณ วันที่ 18:09, 12 ตุลาคม 2023 (UTC) |
สโมสรอาชีพ
ฮัลล์ซิตี
ลิเวอร์พูล
ในวันที่ 21 กรกฎาคม ค.ศ. 2017 รอเบิร์ตสันย้ายไปร่วมทีมลิเวอร์พูล ด้วยค่าตัว 8 ล้านปอนด์ โดยรอเบิร์ตสันได้สวมเสื้อหมายเลข 26[4] [5] ต่อมา ในวันที่ 19 สิงหาคม ค.ศ. 2017 รอเบิร์ตสันลงเล่นให้กับ ลิเวอร์พูล เป็นนัดแรกโดยลงสนามเป็นตัวจริง ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ คริสตัลพาเลซ 1-0 ต่อมา ในวันที่ 13 พฤษภาคม ค.ศ. 2018 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล 2017–18 ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะเพื่อการันตีโควต้าพื้นที่ในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก รอเบิร์ตสันทำประตูแรกในสีเสื้อของ ลิเวอร์พูล ช่วยให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ ไบรตันแอนด์โฮฟอัลเบียน 4-0 ทำให้ ลิเวอร์พูล จบอันดับที่ 4 และคว้าโควต้าแชมเปียนส์ลีก ในฤดูกาล2018-2019ได้สำเร็จ[6]
ในวันที่ 18 มกราคม ค.ศ. 2019 รอเบิร์ตสันตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูล ไปจนถึงปี 2024[7] ต่อมา รอเบิร์ตสันยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, ซาดีโย มาเน และ เฟอร์จิล ฟัน ไดก์ 3 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย ต่อมา ในวันที่ 1 มิถุนายน ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก นัดชิงชนะเลิศ 2019 ลิเวอร์พูล เจอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่วันดาเมโตรโปลิตาโน ในมาดริด, ประเทศสเปน สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 6 ได้สำเร็จ[8]
ในวันที่ 14 สิงหาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าซูเปอร์คัพ 2019 ลิเวอร์พูล แชมป์ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2018–19 เจอกับ เชลซี แชมป์ยูฟ่ายูโรปาลีก ฤดูกาล 2018–19 ที่สนามโวดาโฟนพาร์ก, อิสตันบูล ประเทศตุรกี สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 5-4 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ยูฟ่าซูเปอร์คัพ สมัยที่ 4 ได้สำเร็จ[9] ต่อมา ในวันที่ 2 ตุลาคม ค.ศ. 2019 ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่ม E รอเบิร์ตสันทำประตูแรกในยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เร็ดบุลซัลทซ์บวร์ค จากออสเตรีย 4-3[10] ต่อมา ในวันที่ 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 2019 รอเบิร์ตสันทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2019–20 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 2-1[11] ต่อมา ในวันที่ 21 ธันวาคม ค.ศ. 2019 ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก 2019 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ ฟลาเม็งกู ตัวแทน คอนเมบอล ในฐานะแชมป์เก่าของ โกปาลิเบร์ตาโดเรส ที่สนามกีฬาแห่งชาติคาลิฟา ในโดฮา, ประเทศกาตาร์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ ฟลาเม็งกู ในช่วงต่อเวลาพิเศษ 1-0 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก สมัยแรกได้สำเร็จ[12]
ในวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2020 รอเบิร์ตสันทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เสมอกับ เบิร์นลีย์ 1-1 จบฤดูกาล รอเบิร์ตสันช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกครั้งแรกในรอบ 30 ปีได้สำเร็จ[13] รอเบิร์ตสันยังได้ติดทีมยอดเยี่ยมของพีเอฟเอ ร่วมกับ เทรนต์ อเล็กซานเดอร์-อาร์โนลด์, เฟอร์จิล ฟัน ไดก์, ซาดีโย มาเน และ จอร์แดน เฮนเดอร์สัน 4 นักเตะของลิเวอร์พูล อีกด้วย[14]
ในวันที่ 28 กันยายน ค.ศ. 2020 รอเบิร์ตสันทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2020–21 นัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ อาร์เซนอล 3-1[15]
ในวันที่ 24 สิงหาคม ค.ศ. 2021 รอเบิร์ตสันตัดสินใจต่อสัญญาระยะยาวกับสโมสรลิเวอร์พูลถึงปี 2026[16] ต่อมา ในวันที่ 19 ธันวาคม ค.ศ. 2021 รอเบิร์ตสันทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2021–22 แต่ก็โดนใบแดงไล่ออกจากสนาม ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เสมอกับ ทอตนัมฮอตสเปอร์ ที่สนามกีฬาทอตนัมฮอตสเปอร์ 2-2 ทำให้ รอเบิร์ตสันโดนแบน 3 นัด
ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 2022 อีเอฟแอลคัพ 2022 นัดชิงชนะเลิศ ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 11-10 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์อีเอฟแอลคัพ สมัยที่ 9 ได้สำเร็จ[17] ต่อมา ในวันที่ 24 เมษายน ค.ศ. 2022 รอเบิร์ตสันทำประตูที่ 2 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ เอฟเวอร์ตัน 2-0[18]
ในวันที่ 14 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคัพ รอบชิงชนะเลิศ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ เชลซี ที่สนามกีฬาเวมบลีย์ สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ เชลซี ในการดวลจุดโทษ 6-5 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์เอฟเอคัพ สมัยที่ 8 ได้สำเร็จ[19] ต่อมา ในวันที่ 22 พฤษภาคม ค.ศ. 2022 พรีเมียร์ลีก นัดปิดฤดูกาล ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เจอกับ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ เป็นนัดตัดสินแชมป์พรีเมียร์ลีกระหว่าง ลิเวอร์พูล กับ แมนเชสเตอร์ซิตี ในนัดนี้ ลิเวอร์พูล จะต้องชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ และต้องลุ้นให้ แมนเชสเตอร์ซิตี ไม่ชนะ แอสตันวิลลา ด้วย ลิเวอร์พูล ก็จะได้แชมป์พรีเมียร์ลีก โดย รอเบิร์ตสันยิงประตูให้ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วุลเวอร์แฮมป์ตันวอนเดอเรอส์ 3-1 แต่สุดท้าย แมนเชสเตอร์ซิตี เอาชนะ แอสตันวิลลา 3-2 ทำให้ ลิเวอร์พูล พลาดโอกาสคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก อย่างน่าเสียดาย[20]
ในวันที่ 30 กรกฎาคม ค.ศ. 2022 เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์ 2022 ลิเวอร์พูล เจอกับ แมนเชสเตอร์ซิตี ที่คิงเพาเวอร์สเตเดียม สุดท้าย ลิเวอร์พูล เอาชนะ แมนเชสเตอร์ซิตี 3-1 ช่วยให้ ลิเวอร์พูล คว้าแชมป์คอมมิวนิตีชีลด์ สมัยที่ 16 ได้สำเร็จ[21] ต่อมา ในวันที่ 26 ธันวาคม ค.ศ. 2022 รอเบิร์ตสันสร้างสถิติใหม่เป็นกองหลังที่ทำแอสซิสต์ได้มากที่สุดตลอดกาลของพรีเมียร์ลีก ด้วยจำนวน 54 ครั้ง จากการลงเล่นในพรีเมียร์ลีก 231 นัด โดยจ่ายบอลให้ เศาะลาห์ทำประตูในนัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ แอสตันวิลลา ที่วิลลาพาร์ก 3-1[22]
ในวันที่ 16 กันยายน ค.ศ. 2023 รอเบิร์ตสันทำประตูแรกในพรีเมียร์ลีก ฤดูกาล 2023–24 นัดที่ ลิเวอร์พูล เอาชนะ วูลฟ์แฮมตันวันเดอเรอส์ ที่สนามกีฬาโมลีนิวส์ 3-1[23] ต่อมา ในวันที่ 5 พฤษภาคม ค.ศ. 2024 รอเบิร์ตสันทำประตูที่ 3 ในพรีเมียร์ลีก ในนัดที่ ลิเวอร์พูล เปิดสนามแอนฟีลด์เอาชนะ ทอตนัมฮอตสเปอร์ 4-2[24]
สถิติอาชีพ
สโมสร
- ณ วันที่ 19 พฤษภาคม 2024
สโมสร | ฤดูกาล | ลีก | คัพ[a] | ลีกคัพ[b] | ยุโรป | อื่น ๆ | รวม | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ดิวิชัน | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ลงเล่น | ประตู | ||
ควีนส์พาร์ก | 2012–13[25] | สกอตติชดิวิชันที่สาม | 34 | 2 | 2 | 0 | 3 | 0 | — | 4[c] | 0 | 43 | 2 | |
ดันดียูไนเต็ด | 2013–14[25] | สกอตติชพรีเมียร์ชิป | 36 | 3 | 5 | 2 | 3 | 0 | — | — | 44 | 5 | ||
ฮัลล์ซิตี | 2014–15[25] | พรีเมียร์ลีก | 24 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | — | 24 | 0 | |
2015–16[25] | แชมเปียนชิป | 42 | 2 | 2 | 0 | 5 | 1 | — | 3[d] | 1 | 52 | 4 | ||
2016–17[25] | พรีเมียร์ลีก | 33 | 1 | 2 | 0 | 4 | 0 | — | — | 39 | 1 | |||
รวม | 99 | 3 | 4 | 0 | 9 | 1 | 0 | 0 | 3 | 1 | 115 | 5 | ||
ลิเวอร์พูล | 2017–18[26] | พรีเมียร์ลีก | 22 | 1 | 1 | 0 | 1 | 0 | 6[e] | 0 | — | 30 | 1 | |
2018–19[27] | พรีเมียร์ลีก | 36 | 0 | 0 | 0 | 0 | 0 | 12[e] | 0 | — | 48 | 0 | ||
2019–20[28] | พรีเมียร์ลีก | 36 | 2 | 1 | 0 | 0 | 0 | 8[e] | 1 | 4[f] | 0 | 49 | 3 | |
2020–21[29] | พรีเมียร์ลีก | 38 | 1 | 1 | 0 | 0 | 0 | 10[e] | 0 | 1[g] | 0 | 50 | 1 | |
2021–22[30] | พรีเมียร์ลีก | 29 | 3 | 4 | 0 | 4 | 0 | 10[e] | 0 | — | 47 | 3 | ||
2022–23[31] | พรีเมียร์ลีก | 34 | 0 | 2 | 0 | 1 | 0 | 5[e] | 0 | 1[g] | 0 | 43 | 0 | |
2023–24 | พรีเมียร์ลีก | 23 | 3 | 2 | 0 | 1 | 0 | 4[h] | 0 | — | 30 | 3 | ||
รวม | 218 | 10 | 11 | 0 | 7 | 0 | 55 | 1 | 6 | 0 | 297 | 11 | ||
รวมทั้งหมด | 387 | 18 | 22 | 2 | 22 | 1 | 55 | 1 | 13 | 1 | 499 | 23 |
ทีมชาติ
- ณ วันที่ 12 ตุลาคม 2023.[32]
ทีมชาติ | ปี | ลงเล่น | ประตู |
---|---|---|---|
สกอตแลนด์ | 2014 | 5 | 1 |
2015 | 3 | 0 | |
2016 | 4 | 0 | |
2017 | 8 | 1 | |
2018 | 8 | 0 | |
2019 | 6 | 1 | |
2020 | 6 | 0 | |
2021 | 15 | 0 | |
2022 | 5 | 0 | |
2023 | 7 | 0 | |
รวม | 67 | 3 |
ประตูในนามทีมชาติ
- ณ วันที่ 11 มิถุนายน 2022
ลำดับ | วันที่ | สนามแข่ง | Cap | คู่แข่ง | คะแนน | ผล | การแข่งขัน | อ้างอิง |
---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | 18 พฤศจิกายน 2014 | เซลติกพาร์ก กลาสโกว์ ประเทศสกอตแลนด์ | 5 | ![]() | 1–2 | 1–3 | กระชับมิตร | [33] |
2 | 1 กันยายน 2017 | LFF Stadium วิลนีอัส ประเทศลิทัวเนีย | 16 | ![]() | 2–0 | 3–0 | ฟุตบอลโลก 2018 รอบคัดเลือก | [34] |
3 | 8 มิถุนายน 2019 | แฮมป์เดนพาร์ก กลาสโกว์ สกอตแลนด์ | 30 | ![]() | 1–0 | 2–1 | ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2020 รอบคัดเลือก | [35] |
เกียรติประวัติ
สโมสร
ฮัลล์ซิตี
- ฟุตบอลลีกแชมเปียนชิป รอบเพลย์ออฟ: 2016[36]
ลิเวอร์พูล
- พรีเมียร์ลีก: 2019–20[37]
- เอฟเอคัพ: 2021–22[38]
- อีเอฟแอลคัพ: 2021–22[39], 2023–24
- เอฟเอคอมมิวนิตีชีลด์: 2022[40]
- ยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก: 2018–19[41]
- ยูฟ่าซูเปอร์คัพ: 2019[42]
- ฟุตบอลชิงแชมป์สโมสรโลก: 2019[43]
รางวัลส่วนตัว
- PFA Scotland Young Player of the Year: 2013–14[44]
- PFA Scotland Team of the Year: 2013–14[45]
- SPFL Player of the Month: พฤศจิกายน 2013[46]
- SPFL Young Player of the Month: กันยายน 2013[46]
- PFA Team of the Year: 2018–19[47], 2019–20[48]
- UEFA Champions League Breakthrough XI: 2018[49]
- UEFA Champions League Squad of the Season: 2018–19[50]
- UEFA Champions League Team of the Season: 2021–22[51]
- UEFA Team of the Year: 2019[52]
- ESM Team of the Year: 2019–20[53]
- เครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติช (Order of the British Empire) ชั้น MBE: 2022
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/4/4a/Commons-logo.svg/30px-Commons-logo.svg.png)
- Profile at the Liverpool F.C. website
- Profile at the Scottish Football Association website
- แอนดรูว์ รอเบิร์ตสัน – สถิติการลงแข่งจากสหภาพสมาคมฟุตบอลยุโรป (UEFA) (อังกฤษ)