เส้นเวลาการระบาดทั่วของโควิด-19
บทความนี้เป็นลำดับเวลาและวิทยาการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019[1] ซึ่งทำให้เกิดการระบาดทั่วใน พ.ศ. 2562–2563 ณ นครอู่ฮั่น ประเทศจีน และอาจไม่ครอบคลุมไปถึงการตอบสนองและมาตรการสำคัญซึ่งกำลังดำเนินอยู่ทั้งหมด
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/9/9e/COVID-19_cases_in_China.svg/319px-COVID-19_cases_in_China.svg.png)
ลำดับเวลาผู้ติดเชื้อในจีนแผ่นดินใหญ่
วันที่ CST | ผู้ติดเชื้อ | เสียชีวิต (สะสม) | หายแล้ว (สะสม) | การกักกัน | แหล่งที่มา | |||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ต้องสงสัย (ปัจจุบัน) | ยีนยัน (สะสม) | สาหัส (ปัจจุบัน) | ถูกกักกัน (ปัจจุบัน) | ปล่อยตัว (ณ วันนั้น) | ปล่อยตัว (สะสม) | รวม (สะสม) | ||||
31 ธ.ค. 2562 | 27 | [8] | ||||||||
3 ม.ค. 2563 | 44 | 121 | [9] | |||||||
5 ม.ค. 2563 | 59 | 163 | [10] | |||||||
10 ม.ค. 2563 | 41 | 1 | 739 | 0 | 739 | [11] | ||||
11 ม.ค. 2563 | 41 | 1 | 717 | 46 | 763 | [12] | ||||
12 ม.ค. 2563 | 41 | 1 | 687 | 76 | 763 | [13] | ||||
13 ม.ค. 2563 | 41 | 1 | 576 | 187 | 763 | [14] | ||||
15 ม.ค. 2563 | 2 | 7 | 119 | 644 | 763 | [15] | ||||
16 ม.ค. 2563 | 45 | 5 | 12 | 98 | 665 | 763 | [16] | |||
17 ม.ค. 2563 | 62 | 8 | 2 | 15 | 82 | 681 | 763 | [17] | ||
18 ม.ค. 2563 | 121 | 19 | [18] | |||||||
19 ม.ค. 2563 | 198 | 44 | 3 | 25 | 90 | 727 | 817 | [18] | ||
20 ม.ค. 2563 | 54 | 291 | 6 | 25 | 249 | 739 | 988 | [19][20] | ||
21 ม.ค. 2563 | 37 | 440 | 102 | 9 | 1,394 | 765 | [note 1] 2,197 | [21] | ||
22 ม.ค. 2563 | 257 | 571 | 95 | 17 | 4,928 | 969 | 5,897 | [22] | ||
23 ม.ค. 2563 | 1,072 | 830 | 177 | 25 | 34 | 8,420 | 1,087 | 9,507 | [23] | |
24 ม.ค. 2563 | 1,965 | 1,287 | 237 | 41 | 38 | 13,967 | 1,230 | 15,197 | [24] | |
25 ม.ค. 2563 | 2,684 | 1,975 | 324 | 56 | 49 | 21,556 | 325 | [note 2] | 23,431 | [25] |
26 ม.ค. 2563 | 5,794 | 2,744 | 461 | 80 | 51 | 30,453 | 583 | 32,799 | [26] | |
27 ม.ค. 2563 | 6,973 | 4,515 | 976 | 106 | 60 | 44,132 | 914 | 47,833 | [27] | |
28 ม.ค. 2563 | 9,239 | 5,974 | 1,239 | 132 | 103 | 59,990 | 1,604 | 65,537 | [28] | |
29 ม.ค. 2563 | 12,167 | 7,711 | 1,370 | 170 | 124 | 81,947 | 2,364 | 88,693 | [29] | |
30 ม.ค. 2563 | 15,238 | 9,692 | 1,527 | 213 | 171 | 102,427 | 4,201 | 113,579 | [30] | |
31 ม.ค. 2563 | 17,988 | 11,791 | 1,795 | 259 | 243 | 118,478 | 6,509 | 136,987 | [31] | |
1 ก.พ. 2563 | 19,544 | 14,380 | 2,110 | 304 | 328 | 137,594 | 8,044 | 163,844 | [32] | |
2 ก.พ. 2563 | 21,558 | 17,205 | 2,296 | 361 | 475 | 152,700 | 10,055 | 189,583 | [33] | |
3 ก.พ. 2563 | 23,214 | 20,438 | 2,788 | 425 | 632 | 171,329 | 12,755 | 221,015 | [34] | |
4 ก.พ. 2563 | 23,260 | 24,324 | 3,219 | 490 | 892 | 185,555 | 18,457 | 252,154 | [35] | |
5 ก.พ. 2563 | 24,702 | 28,018 | 3,859 | 563 | 1,153 | 186,354 | 282,813 | [36] | ||
6 ก.พ. 2563 | 26,359 | 31,161 | 4,821 | 636 | 1,540 | 186,045 | 314,028 | [37] | ||
7 ก.พ. 2563 | 27,657 | 34,546 | 6,101 | 722 | 2,050 | 189,660 | 345,498 | [38] | ||
หมายเหตุ: |
ลำดับเวลา
1–8 ธันวาคม พ.ศ 2562
วันที่ 8 ธันวาคม พ.ศ. 2562 มีการบันทึกผู้ป่วยรายแรกที่แสดงอาการได้โดยเจ้าหน้าที่จีน ภายหลังในรายงานภาษาจีนพบว่ามีกรณีก่อนหน้านี้ด้วยในวันที่ 1 ธันวาคม[39]
30–31 ธันวาคม พ.ศ 2562
30 ธันวาคม 2562 "ประกาศฉุกเฉินเกี่ยวกับการรักษาโรคปอดอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุ" ถูกประกาศโดยการบริหารทางการแพทย์ของคณะกรรมการอนามัยเทศบาลอู่ฮั่น[40] 31 ธันวาคม 2562 ผู้มีอาการโรคปอดอักเสบโดยไม่ทราบสาเหตุถูกรายงานไปยังองค์การอนามัยโลก ส่วนมากเป็นผู้ขายจากตลาดอาหารทะเลจีนใต้อู่ฮั่น โดยเจ็ดคนมีอาการสาหัสในระดับอันตรายถึงชีวิต ทำให้ฮ่องกง, มาเก๊า และไต้หวันตึงกระบวนการคัดกรองบุคคลขาเข้าให้กระชับขึ้น[41][42]
1 มกราคม พ.ศ. 2563
1 มกราคม 2563: ตลาดสัตว์และปลาซึ่งต้องสงสัยว่าเกี่ยวข้องกับผู้ติดเชื้อโรคปอดอักเสบถูกปิดเพื่อทำความสะอาดและฆ่าเชื้อ[41]
2 มกราคม
ในวันที่ 2 มกราคม ผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล 41 คน ในอู่ฮั่นประเทศจีน ได้รับการยืนยัน (ห้องปฏิบัติการยืนยัน) ว่าติดเชื้อไวรัส 2019-nCoV (โคโรนาไวรัสอู่ฮั่น) ผู้ป่วย 27 คน (66%) สัมผัสโดยตรงกับตลาดขายส่งอาหารทะเลหฺวาหนาน[43] ในเวลาต่อมา ผู้ป่วยทั้งหมด 41 คนถูกย้ายออกจากโรงพยาบาลที่ได้รับการวินิจฉัย ไปยังโรงพยาบาลจินหยินถาน ในนครอู่ฮั่น[43]
3 มกราคม
ประเทศไทยเริ่มตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่เดินทางมาจากเมืองอู่ฮั่นในสี่ท่าอากาศยาน[44][45][46] ในวันเดียวกันนั้น ประเทศสิงคโปร์ได้เริ่มต้นการตรวจคัดกรองผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานจางีสิงคโปร์เช่นกัน[47]
5 มกราคม
การตรวจสอบเบื้องต้นเกี่ยวกับสาเหตุของโรคปอดอักเสบได้พิจารณาตัดเหตุจากไข้หวัดใหญ่ฤดูกาล, โรคซาร์ส, โรคเมอร์ส และไข้หวัดนก[48][49] จำนวนผู้ต้องสงสัยว่าติดเชื้อเพิ่มเป็น 59 คน โดยมี 7 คนที่อยู่ในภาวะวิกฤต ผู้ต้องสงสัยทั้งหมดถูกกักกัน และเริ่มมีการตรวจสอบอีก 163 คน ในเวลานี้ยังไม่มีรายงานถึงกรณีการติดต่อจากมนุษย์สู่มนุษย์หรือปรากฏในผู้ทำงานด้านการดูแลสุขภาพ[50][51]
6 มกราคม
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ (CDC) ได้ประกาศการเฝ้าระวังในการท่องเที่ยวระดับที่ 1 พร้อมคำแนะนำเกี่ยวกับการล้างมือและคำแนะนำให้หลีกเลี่ยงตลาดสัตว์ และการติดต่อกับผู้ป่วยหากเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น[50][49]
9 มกราคม
องค์การอนามัยโลกยีนยันว่ามีโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ในบุคคลหนึ่งซึ่งเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล[52][53] ในวันเดียวกัน ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งยุโรปได้ออกประกาศการประเมินความเสี่ยงเป็นครั้งแรก[54] องค์การอนามัยโลกยังรายงานด้วยว่าทางการจีนมีการดำเนินการอย่างรวดเร็ว[52] การระบุโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่มีขึ้นภายในไม่กี่สัปดาห์หลังจากเริ่มมีการระบาด โดยมีผู้ที่ผลทดสอบเป็นบวกทั้งสิ้น 41 ราย[55] ผู้เสียชีวิตรายแรกจากไวรัสเป็นชายอายุ 61 ปี ซึ่งเป็นลูกค้าประจำที่ตลาด เขามีภาวะสำคัญทางการแพทย์หลายประการ ประกอบด้วย โรคตับเรื้อรัง และเสียชีวิตจากหัวใจล้มเหลวและโรคปอดอักเสบ เหตุนี้ถูกรายงานในประเทศจีนโดยคณะกรรมการอนามัยแห่งชาติผ่านทางสื่อของรัฐบาลจีนในวันที่ 11 มกราคม[56][57][58][59]
10 มกราคม
ข้อมูลการจัดลำดับยีนของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 เดี่ยว พบว่าไวรัสเป็นตระกลูเดียวกันกับโคโรนาไวรัสของโรคซาร์ส โดยการค้นพบนี้ถูกโพสต์ลงบนเว็บไซต์ Virological.org โดยนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยฟู่ตั้นในเซี่ยงไฮ้ อีกสามลำดับ โดยมาจากศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคแห่งจีนหนึ่งลำดับ สำนักวิทยาศาสตร์การแพทย์ของจีนหนึ่งลำดับ และจากโรงพยาบาลจินหยินถานในอู่ฮั่นอีกหนึ่งลำดับ ถูกโพสต์ลงใน Global Initiative on Sharing All Influenza Data (GISAID)[56][60][44][61] ในวันเดียวกัน หน่วยสาธารณสุขอังกฤษได้ออกคำแนะนำสำหรับไวรัสนี้[54]
11–12 มกราคม
ในประเทศจีน คนที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วทั้ง 41 คน จำนวนมากกว่า 700 คน โดยเป็นบุคลากรด้านการดูแลสุขภาพมากกว่า 400 คนถูกเฝ้าระวังติดตาม โดยไม่มีรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ในประเทศจีนตั้งแต่วันที่ 5 มกราคม[50][49][56][62] องค์การอนามัยโลกเผยแพร่คำแนะนำเบื้องต้นสำหรับการท่องเที่ยว การทดสอบในห้องปฏิบัติการ และการสืบค้นทางการแพทย์[56]
13 มกราคม
ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคสหรัฐ (CDC) ประกาศว่าจีโนมนั้นได้รับโพสต์ลงบน GenBank ซึ่งเป็นฐานข้อมูลลำดับพันธุกรรมของสถาบันสุขภาพแห่งชาติ (NIH) แล้ว[63] ในวันเดียวกัน ประเทศไทยมีการพบผู้ติดเชื้อโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 รายแรก ถือเป็นการพบผู้ติดเชื้อครั้งแรกนอกประเทศจีน[64] โดยผู้ติดเชื้อเป็นหญิงชาวจีนอายุ 61 ปี มีถิ่นฐานอยู่ในเมืองอู่ฮั่น และไม่เคยเดินทางไปยังตลาดอาหารทะเลหฺวาหนานมาก่อน แต่ได้เดินทางไปยังตลาดอีกแห่งแทน โดยเธอเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครในวันที่ 8 มกราคม[65]
14–15 มกราคม
14 มกราคม ในจำนวนผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้ว 41 ราย จำนวนสองคนนั้นเป็นคู่แต่งงานกัน ซึ่งเพิ่มความเป็นไปได้ของการแพร่จากมนุษย์สู่มนุษย์[65][66]
15 มกราคม ผู้เสียชีวิตรายที่สองในประเทศจีนเป็นชายอายุ 69 ปี[67][68][68][68]
องค์การอนามัยโลกเผยแพร่เกณฑ์วิธีในการวินิจฉัยสำหรับโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ 2019 (2019-nCoV) ซึ่งพัฒนาขึ้นโดยทีมไวรัสวิทยาจากโรงพยาบาลชารีเท[67]
16–17 มกราคม
16 มกราคม องค์การอนามัยโลกได้รับการแจ้งเตือนจากกระทรวงอนามัย แรงงาน และสวัสดิการแห่งประเทศญี่ปุ่น ว่าชายสัญชาติจีนอายุ 30 ปีมีผลตรวจไว้รัส 2019-nCoV เป็นบวกในระหว่างที่พักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลในระหว่างวันที่ 10 ถึง 15 มกราคม โดยชายคนดังกล่าวไม่เคยเดินทางไปยังตลาดอาหารทะเลหฺวาหนานมาก่อน แต่อาจมีความเป็นไปได้ว่ามีการสัมผัสใกล้ชิดกับบุคคลที่ได้รับผลกระทบในเมืองอู่ฮั่น[69][70]
17 มกราคม ประเทศไทยพบผู้ป่วยติดเชื้อยืนยันรายที่ 2 เป็นหญิงอายุ 74 ปี ซึ่งเดินทางมาถึงกรุงเทพมหานครด้วยเที่ยวบินจากเมืองอู่ฮั่น[71][72] จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการในประเทศจีนเพิ่มขึ้นเป็น 45 ราย[73]
18 มกราคม
ทางการจีนรายงานว่ามีผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 17 ราย โดยมีสามรายที่อยู่ในภาวะวิกฤต จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการแล้วในประเทศจีนรวมเพิ่มเป็น 62 ราย โดยมีช่วงอายุอยู่ระหว่าง 30 ถึง 79 ปี โดยมีผู้ติดเชื้อจำนวน 19 คนที่ได้รับการปล่อยตัวออกจากโรงพยาบาล และอีก 8 คนนั้นยังคงอยู่ในภาวะวิกฤต[74]
19 มกราคม
มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วนอกเมืองอู่ฮั่น โดยหนึ่งรายอยู่ที่ทางใต้ของมณฑลกวางตุ้ง และอีกสองรายในปักกิ่ง[75] ส่วนในเมืองอู่ฮั่นมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมอีก 136 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อรวมเพิ่มเป็น 201 ราย และยังมีรายงานผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีกหนึ่งรายในเมืองอู่ฮั่นด้วย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตในประเทศจีนเพิ่มเป็นสามคน[76][77]
20 มกราคม
มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันครั้งแรกในประเทศเกาหลีใต้[78] ขณะที่ปักกิ่งและมณฑลกวางตุ้งมีรายงานผู้ติดเชื้อ ที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มเติมอีกสามและสิบสามราย ตามลำดับ ส่วนในเซี่ยงไฮ้มีการรายงานพบผู้ติดเชื้อครั้งแรก ทำให้ยอดผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการในประเทศจีนเพิ่มเป็น 218 ราย[79][80] ทีมสืบค้นจากคณะกรรมการอนามัยแห่งชาติของจีนได้ยืนยันว่าโคโรนาไวรัสนี้สามารถติดต่อระหว่างมนุษย์ได้ เนื่องจากมีผู้ติดเชื้ออย่างน้อยสองคนที่อยู่ห่างจากเมืองอู่ฮั่นหลายร้อยไมล์[81]
21 มกราคม
องค์การอนามัยโลกประกาศว่าจะจัดการประชุมฉุกเฉินเกี่ยวกับไวรัสในวันถัดไป เพื่อตัดสินว่าไวรัสนี้นั้นเป็น "ภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระหว่างประเทศ" หรือยัง[82]
มีการพบผู้ติดเชื้อที่ยืนยันแล้วในหลายพื้นที่ของประเทศจีน โดยในมณฑลเจ้อเจียงและเทียนจินมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 5 และ 2 ราย ตามลำดับ[83][84] ในมฆฑลกวางตุ้งมีรายงานพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 3 ราย[85] ในเซี่ยงไฮ้และมณฑลเหอหนานมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 4 และ 1 ราย ตามลำดับ[86] มีการพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 1 รายในมณฑลเสฉวนและ 5 รายในฉงชิ่ง[87][88] ในมณฑลชานตง, มณฑลหูหนาน และมณฑลยูนนานพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการที่ละหนึ่งราย[89][90][91] มณฑลเจียงซีมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 2 ราย[92] ทั้งหมด จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการในประเทศจีนเพิ่มเป็น 312 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 6 คน[93][94][88]
มีรายงานว่าบุคลากรทางการแพทย์ในเมืองอู่ฮั่นจำนวน 15 รายติดเชื้อ ซึ่งมี 14 รายที่ถูกต้องสงสัยว่าเป็นซูเปอร์สเปรดเดอร์[95][96]
นอกจากนั้นยังมีการพบผู้ติดเชื้อรายใหม่นอกจีนแผ่นดินใหญ่ด้วย โดยไต้หวันมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นรายแรก[97] และมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อยืนยันแล้วครั้งแรกในอเมริกาเหนือ ในรัฐวอชิงตัน[98][99]
22 มกราคม
มาเก๊าและฮ่องกงมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการรายที่ละกรณี[100][101] ปักกิ่งมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 5 ราย มณฑลกวางตุ้งมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 9 ราย เซี่ยงไฮ้มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 5 ราย ขณะที่เทียนจินมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 2 ราย ขณะที่ในมณฑลเจ้อเจียงและมณฑลเจียงซีมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 5 และ 1 ราย ตามลำดับ[102] มณฑลเหลียวหนิงมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 2 รายแรก[103] มณฑลกุ้ยโจว, มณฑลฝูเจี้ยน, มณฑลอานฮุย, มณฑลชานซี และเขตปกครองตนเองหนิงเซี่ยหุย มีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการในแต่ละที่ 1 ราย[104][105][106][107][108] มณฑลไหหลำมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 4 ราย[109] มณฑลหูหนันมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 3 ราย[110] มณฑลกวางซีมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการ 2 ราย[111] ทั้งหมด จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการในประเทศจีนเพิ่มเป็น 541 ราย และยอดผู้เสียชีวิตอยู่ที่ 17 คน
ในประเทศไทยมีการพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 2 ราย ทำให้จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการในประเทศไทยเพิ่มเป็น 4 ราย[112]
ในช่วงเย็นของวันที่ 22 มกราคม ฮ่องกงรายงานว่าพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นรายที่สอง[113]
ข้อมูลใหม่แสดงให้เห็นว่าปัจจุบันมีการระบาดของโรคอย่างรวดเร็ว และอัตราการแพร่เชื้อก็เพิ่มขึ้นด้วย[114][115]
23 มกราคม
ทั้งมณฑลเจียงซูและมณฑลเฮย์หลงเจียงต่างมีรายงานพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นรายแรกของมณฑล[116][117] ขณะที่มณฑลกวางซีมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มขึ้น 3 ราย[118] เมืองอู่ฮั่นถูกระงับการขนส่งสาธารณะทั้งหมดตั้งแต่เวลา 10:00 น. เป็นต้นไป รวมไปถึงรถบัส รถไฟฟ้า และเรือเฟอร์รีทุกสาย นอกจากนี้ยังมีรถไฟและเที่ยวบินขาออกทั้งหมดที่ถูกระงับไว้ด้วย[119] ในมาเก๊ายังมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการรายที่สองด้วย ซึ่งเป็นชายอายุ 66 ปีจากเมืองอู่ฮั่น[120] ทั้งหมด จำนวนผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการแล้วเพิ่มขึ้นเป็น 628 คน ขณะที่จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงอยู่ที่ 17 คน
สิงคโปร์รายงานว่าพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเป็นรายแรก เป็นชายอายุ 66 ปีจากประเทศจีน[121] ส่วนเวียดนามมีการพบผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการจำนวนสองรายแรก เป็นชายอายุ 66 ปีซึ่งเป็นบิดา และบุตรชายอายุ 28 ปีจากประเทศจีน[122]
24 มกราคม
6 มณฑล 2 เขตปกครองตนเอง และ 4 เทศบาล ได้แก่ หูเป่ย์[123] อานฮุย[124] เทียนจิน[125] ปักกิ่ง[126] เซี่ยงไฮ้[127] ฉงชิ่ง[128] เสฉวน[129] เจียงซี[130] ยูนนาน[131] ชานตง[132] ฝูเจี้ยน[133] และกวางซี[134] มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับที่ 1 ตามลำดับ[135] เมืองจิงโจวถูกกักกัน ทำให้มีผู้ถูกกักไว้ในเมืองสูงถึง 35 ล้านคน[136]
ชานตงมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 6 คน[137] หูหนานมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 15 คน[138] เหลียวหนิงมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 1 คน[139] ฝูเจี้ยนมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 4 คน[140] อานฮุยมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 6 คน[141] หนิงเซียมีรายงานผู้ติดเชื้อที่ได้รับการยืนยันทางห้องปฏิบัติการเพิ่มอีก 1 คน[142]
ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ และสหรัฐต่างมีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกเป็นรายที่สองในแต่ละประเทศ[143][144][145] สิงคโปร์มีรายงานยืนยันผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกเป็นรายที่สองและสาม[146] ไทย[147] และฮ่องกง[148] มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่ห้า ส่วนเนปาลมีการยืนยันผู้ติดเชื้อเป็นคนแรก ซึ่งเป็นนักเรียนที่เพิ่งเดินทางกลับมาจากเมืองอู่ฮั่น[149]
ในอู่ฮั่น มีการก่อสร้างโรงพยาบาลฉุกเฉินเฉพาะทางจำลองตามแบบโรงพยาบาลเสี่ยวทังชานในช่องที่เกิดการระบาดของโรคซาร์สเมื่อปี พ.ศ. 2546 ในปักกิ่ง โดยเริ่มขึ้นหลังจากถูกเสนอไปเมื่อวันที่ 23 มกราคม ขณะที่โรงพยาบาลหั่วเฉินชานที่เพิ่งสร้างขึ้นใหม่ คาดว่าจะเปิดในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ มีความจุ 1,000 เตียง[150]
โรงภาพยนตร์ในประเทศจีนทั้ง 70,000 โรงปิดทำการจนกว่าจะมีการแจ้งให้ทราบ[151] สถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งทั่วประเทศจีนมีประกาศปิดจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ประกอบด้วย เขาอู่ไถ[152], ผิงเหยา, ช่องหยานเหมิน[153], ทะเลสาบเชียนอู่, เขาชีเซีย, พิพิธภัณฑ์การสังหารหมู่นานกิง, หอรำลึกซุน ยัตเซ็น, หอคอยกวางตุ้ง, กู่ลั่งหยู่[154] สวนหยู[155], เซี่ยงไฮ้ดิสนีย์แลนด์พาร์ก[156], ทะเลสาบตะวันตก และพระราชวังต้องห้าม[157]
รัฐบาลท้องถิ่นของปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้มีการประกาศให้ผู้อาศัย ที่เดินทางกลับมาจากพื้นที่ที่มีการระบาดของโคโรนาไวรัส พักอยู่ที่บ้านเป็นเวลา 14 วันเพื่อป้องกันการแพร่กระจายของโรค[158]
ฝรั่งเศสมีรายงานผู้ติดเชื้อยืนยันสองรายแรก ซึ่งเป็นกรณีแรกในกลุ่มสหภาพยุโรป[159][160][161] รัฐมนตรีกระทรวงความเป็นปึกแผ่นทางสังคมและอนามัย ระบุว่าอาจมีโอกาสเกิดผู้ติดเชื้อรายอื่น ๆ ขึ้นในประเทศได้[162]
สตาร์บัคส์และแมคโดนัลด์ระงับการให้บริการบางส่วนในประเทศจีน โดยอ้างการระบาดของโคโรนาไวรัส[163]
อุบัติการณ์การแพร่เชื้อจากมนุษย์สู่มนุษย์นอกประเทศจีนครั้งแรกเกิดในประเทศเวียดนาม และได้รับการยืนยันโดยองค์การอนามัยโลก[164]
25 มกราคม
มีการประกาศภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขระดับที่ 1 ใน 10 มณฑล 3 เขตปกครองตนเอง ได้แก่ เจียงซู[165], ไหหลำ[166], ซินเจียง[167], เฮย์หลงเจียง[168], เหอหนาน[169], กานซู่[170], เหลียวหนิง[171], ชานซี[172], ส่านซี[173], ชิงไห่[174], จี๋หลิน[175], หนิงเซี่ย[176] และมองโกเลียใน[177] ตามลำดับ
ออสเตรเลียพบผู้ติดเชื้อยืนยันสี่รายแรก โดยหนึ่งรายอยู่ในรัฐวิกทอเรีย[178] และอีกสามรายอยู่ในรัฐนิวเซาท์เวลส์[179][180] มาเลเซียมีรายงานพบผู้ติดเชื้อสามรายครั้งแรกในโจโฮร์บะฮ์รู[181][182] และกรณีที่สี่ในภายหลัง[183] ญี่ปุ่นยีนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่สาม[184] ไทยพบผู้ติดเชื้อเพิ่มอีกสองราย รวมเป็นเจ็ดราย[185] สิงคโปร์ยืนยันพบผู้ติดเชื้อรายที่สี่[186]
มีรายงานแพทย์อายุ 62 ปีในมณฑลหูเป่ย์เสียชีวิตจากโคโรนาไวรัสในเวลา 07:00 น.[187]
คณะกรรมการอนามัยแห่งชาติจีนส่งบุคลากรทางการแพทย์ 1,230 คนแบ่งออกเป็นหกกลุ่มไปยังเมืองอู่ฮั่น เพื่อสู้กับการระบาดของโคโรนาไวรัสสายพันธุ์ใหม่ สามกลุ่มจากหกกลุ่มเริ่มปฏิบัติงานในพื้นที่ที่ถูกไวรัสโจมตี สื่อท้องถิ่นมีรายงานก่อนหน้านี้แล้วว่ามีแพทย์ทหาร 450 นายลงพื้นที่ไปในเมืองแล้วเพื่อสนับสนุน[188] อู่ฮั่นประกาศสร้างโรงพยาบาลเฉพาะทางแห่งที่สอง ชื่อว่าโรงพยาบาลเหลยเฉินชาน ซึ่งตามแผนจะมีความจุ 1,300 เตียง และจะพร้อมใช้งานในอีกครึ่งเดือน[189]
สหรัฐประกาศแผนอพยพชาวอเมริกาออกจากเมืองอู่ฮั่นโดยสายการบินเช่าเหมาลำ[190]
ปักกิ่งประกาศยับยั้งการให้บริการรถบัสข้ามมณฑล และบริการรถไฟตั้งแต่วันที่ 26 มกราคม[191][192]
คณะกรรมการบริหารสูงสุดของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีนเข้าหารือเกี่ยวกับการป้องกันและควบคุมโคโรนาไวรัส สี จิ้นผิง เลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์แห่งประเทศจีน ระบุว่าประเทศจีนกำลังเผชิญกับ "สถานการณ์ร้ายแรง" เนื่องจากจำนวนผู้ติดเชื้อกำลังเพิ่มขึ้น[193][194]
ฮ่องกงประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน[195] และประกาศปิดโรงเรียนจนถึงวันที่ 17 กุมภาพันธ์[196] ขณะที่ฮ่องกงดิสนีย์แลนด์ประกาศปิดจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง[197]
พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อรายแรกในโปรตุเกส[198]
มีชาวจีนและชาวศรีลังกาที่ต้องสงสัยว่าอาจจะติดเชื้อเข้าพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลในศรีลังกา[199]
พบผู้ต้องสงสัยติดเชื้อรายแรกในโทรอนโต แคนาดา เป็นชายอายุราว 50 ปีซึ่งเคยเดินทางไปยังเมืองอู่ฮั่น และเพิ่งโดยสารเที่ยวบินกลับมายังโทรอนโต[200]
26 มกราคม
เซี่ยงไฮ้รายงานพบผู้เสียชีวิตรายแรก เป็นชายอายุ 88 ปี[201] เมืองซัวเถาประกาศปิดเมืองบางส่วน[202] เจ้าหน้าที่จีนเริ่มขยายข้อจำกัดการเดินทางออกนอกมณฑลหูเป่ย์ มีการใช้มาตรการปิดเมืองในเมืองซัวเถา มณฑลกวางตุ้ง[203]
มีผู้ต้องสงสัยติดเชื้อเพิ่มอีกสองคนเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลที่ศรีลังกา ทำให้จำนวนผู้ต้องสงสัยเพิ่มเป็นสี่คน[204] ภายหลัง พบว่าผู้ต้องสงสังทั้งสี่รายมีผลเป็นลบ[205]