เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร
จอมพลอากาศ เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร (15 สิงหาคม พ.ศ. 2457 [1] - 14 เมษายน พ.ศ. 2503 [2]) อดีตผู้บัญชาการทหารอากาศ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม และอดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร[3]
เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร | |
---|---|
ผู้บัญชาการทหารอากาศ | |
ดำรงตำแหน่ง 15 สิงหาคม พ.ศ. 2500 – 14 เมษายน พ.ศ. 2503 (ถึงแก่กรรม) | |
ก่อนหน้า | จอมพลอากาศ ฟื้น รณนภากาศ ฤทธาคนี |
ถัดไป | พลอากาศเอก บุญชู จันทรุเบกษา |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | 15 สิงหาคม พ.ศ. 2457 |
เสียชีวิต | 14 เมษายน พ.ศ. 2503 (46 ปี) ใกล้กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน |
ศาสนา | พุทธ |
คู่สมรส | พรรณี วัฒนางกูร (เสียชีวิต) |
ประวัติ
จอมพลอากาศ เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนนายร้อยทหารบก ศึกษาวิชาการบินจากกองโรงเรียนการบินที่ 1 เมื่อ พ.ศ. 2477 จบโรงเรียนเสนาธิการทหารบก เมื่อ พ.ศ. 2489 และไปศึกษาต่อวิชาเสนาธิการที่ ประเทศอังกฤษ เมื่อ พ.ศ. 2493
ในช่วงสงครามอินโดจีน เมื่อวันที่ 25 มกราคม พ.ศ. 2484 ขณะนั้นท่านมียศเป็น"เรืออากาศโท"เป็นหัวหน้าหมู่บินลาดตระเวน 3 ลำ บริเวณบ้านยาง ถึงบ้านกูบ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดปราจีนบุรี ท่านขับเครื่องบินขับไล่แบบที่ 9 (ฮอร์ค 2) ต่อสู้กับเครื่องบินทิ้งระเบิด และเครื่องบินขับไล่ของฝรั่งเศส เครื่องบินฝรั่งเศสถูกยิงตก 3 ลำ[4]
จอมพลอากาศ เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร เสียชีวิตเมื่อวันที่ 14 เมษายน พ.ศ. 2503[2] ขณะมียศเป็น พลอากาศเอก[5] หลังการประชุมกองทัพอากาศภาคพื้นแปซิฟิก ที่ไทเป ไต้หวัน เครื่องบินดักลาส C-54 Skymaster ที่เป็นพาหนะ เกิดอุบัติเหตุชนภูเขาเสียชีวิตทั้งลำ[6][7] และได้รับโปรดเกล้าฯ ให้เป็นจอมพลอากาศในวันเดียวกัน[8] มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 2 มิถุนายน พ.ศ. 2503 ณ วัดพระศรีมหาธาตุวรมหาวิหาร
มีหลานชายได้แก่ นาวาอากาศตรี อัษฎาวุธ วัฒนางกูร อดีตอธิบดีกรมมหาดเล็ก 904
การเมือง
เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ได้รับแต่งตั้งเป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรประเภทที่ 2 ในปี พ.ศ. 2494[9] เขาเป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคมของไทย ในปี พ.ศ. 2500 ในรัฐบาลของจอมพล ป. พิบูลสงคราม[10] ต่อมาได้รับแต่งตั้งให้เป็นรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตร[11]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
จอมพลอากาศ เฉลิมเกียรติ วัฒนางกูร ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของประเทศไทยและเครื่องราชอิสริยาภรณ์ของต่างประเทศต่างๆ ดังนี้
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- พ.ศ. 2502 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[12]
- พ.ศ. 2501 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[13]
- พ.ศ. 2502 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกล้า ชั้นที่ 2 ทุติยจุลจอมเกล้า (ท.จ.) (ฝ่ายหน้า)[14]
- พ.ศ. 2488 – เหรียญกล้าหาญ (ร.ก.) (ประดับช่อชัยพฤกษ์)[15]
- พ.ศ. 2484 – เหรียญกล้าหาญ (ร.ก.)[16]
- พ.ศ. 2484 – เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามอินโดจีน (ช.ส.)[17]
- พ.ศ. 2505 – เหรียญชัยสมรภูมิ สงครามมหาเอเชียบูรพา (ช.ส.)[18]
- พ.ศ. 2477 – เหรียญพิทักษ์รัฐธรรมนูญ (พ.ร.ธ.)
- พ.ศ. 2490 – เหรียญจักรมาลา (ร.จ.ม.)[19]
- พ.ศ. 2503 – เหรียญรัตนาภรณ์ รัชกาลที่ 9 ชั้นที่ 2 (ภ.ป.ร.2)[20]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- สหรัฐ:
- พ.ศ. 2503 – ลีเจียนออฟเมอริต ชั้นผู้บังคับบัญชา
- ไต้หวัน: