หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย
พลตำรวจจัตวา หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย (5 ตุลาคม พ.ศ. 2451 - 3 มกราคม พ.ศ. 2552 [3]) นักเขียน นักภาษาศาสตร์ นักประวัติศาสตร์ นักการศึกษา
มานิจ ชุมสาย | |
---|---|
เกิด | 5 ตุลาคม พ.ศ. 2451[1] อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา |
เสียชีวิต | 3 มกราคม พ.ศ. 2552 (100 ปี) |
อาชีพ | นักเขียน นักประวัติศาสตร์ |
คู่สมรส | เฉลิมขวัญ ชุมสาย ณ อยุธยา |
บิดามารดา |
|
ประวัติ
หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย เป็นบุตรของ พันเอก หลวงเอนกนัยวาที (หม่อมราชวงศ์นารถ ชุมสาย) [4][5] มีน้องสาวคือ หม่อมหลวงอนงค์ นิลอุบล [6] เกิดที่อำเภอบางปะกง จังหวัดฉะเชิงเทรา จบชั้นมัธยม 8 จากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย และได้รับพระราชทานทุนเล่าเรียนหลวง ไปศึกษาอักษรศาสตร์จาก ทรินิตี้คอลเลจ มหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ สำเร็จการศึกษาเมื่อปี พ.ศ. 2476 กลับมารับราชการกระทรวงศึกษาธิการ และเป็นอาจารย์สอนที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โรงเรียนหอวัง โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล และแต่งตำรา พร้อมกับร่างหลักสูตรการเรียนการสอน ก่อตั้งโรงเรียนอนุบาลละอออุทิศ และก่อตั้งโรงเรียนฝึกหัดครู และแผนกฝึกหัดครูมัธยม หลายแห่ง เช่นที่ วังจันทรเกษม บ้านสมเด็จเจ้าพระยา โรงเรียนสตรีเพชรบุรี สวนสุนันทา โรงเรียนฝึกหัดครูประสานมิตร [7]
การทำงาน
ในปี พ.ศ. 2493 หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย รับหน้าที่เป็นผู้เชี่ยวชาญขององค์การยูเนสโก ประจำอยู่ที่กรุงปารีส ทำหน้าที่วางโครงการช่วยเหลือด้านการศึกษาในประเทศด้อยพัฒนา โดยเฉพาะในประเทศไทย และภูมิภาคใกล้เคียง และย้ายมาประจำที่กรุงเทพในตำแหน่งรองผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชีย เป็นผู้จัดทำโครงการในการก่อตั้งมหาวิทยาลัยแห่งภูมิภาคภาคอีสานขึ้น คือ มหาวิทยาลัยขอนแก่น และคณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ [8]
หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย ได้แต่งตำราวิชาการเป็นจำนวนมาก ที่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย คือ พจนานุกรมฉบับภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส และภาษาเยอรมัน รวมทั้งงานค้นคว้าด้านภาษาศาสตร์ ประวัติศาสตร์ และวัฒนธรรมไทย ทั้งภาษาไทยและภาษาต่างประเทศ เช่น King Mongkut and British และ History of Thailand and Combodia [9] โดยเป็นเจ้าของสำนักพิมพ์ และร้านหนังสือชื่อ "เฉลิมนิจ" (มาจากคำว่า เฉลิมขวัญ และ มานิจ) [10]
หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย เกษียณอายุราชการเมื่อ พ.ศ. 2512[11] แล้วหันมาทำงานค้นคว้าประวัติศาสตร์ เป็นกรรมการสยามสมาคม เป็นนายกสมาคมนักเขียนแห่งประเทศไทย นายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และจำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย
หม่อมหลวงมานิจ ชุมสาย สมรสกับ เฉลิมขวัญ ชุมสาย ณ อยุธยา หีดา พระปทุมเทวาภิบาล (เยี่ยม เอกสิทธิ์) ข้าหลวงสมุหเทศาภิบาลประจำเมืองหนองคาย [5] มีบุตร-ธิดา 4 คน คือ สุเมธ ชุมสาย ณ อยุธยา, อาจอง ชุมสาย ณ อยุธยา, สุชาดา (ชุมสาย ณ อยุธยา) สถิตพิทยายุทธ์ (ถึงแก่กรรม) และปาริชาติ ชุมสาย ณ อยุธยา [5]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ไทย
- พ.ศ. 2540 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่เชิดชูยิ่งช้างเผือก ชั้นสูงสุด มหาปรมาภรณ์ช้างเผือก (ม.ป.ช.)[12]
- พ.ศ. 2535 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันมีเกียรติยศยิ่งมงกุฎไทย ชั้นสูงสุด มหาวชิรมงกุฎ (ม.ว.ม.)[13]
- พ.ศ. 2548 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์อันเป็นที่สรรเสริญยิ่งดิเรกคุณาภรณ์ ชั้นที่ 1 ปฐมดิเรกคุณาภรณ์ (ป.ภ.)[14]
- พ.ศ. 2501 – เหรียญจักรพรรดิมาลา (ร.จ.พ.)[15]
เครื่องราชอิสริยาภรณ์ต่างประเทศ
- บริเตนใหญ่ :
- พ.ศ. 2483 – เครื่องราชอิสริยาภรณ์จักรวรรดิบริติช ชั้นที่ 3 ฝ่ายพลเรือน[16]
- เยอรมนี :
- พ.ศ. 2521 – เครื่องอิสริยาภรณ์เกียรติคุณแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี เหรียญกางเขนเกียรติคุณ
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น