ราหับ
ราหับ (อังกฤษ: Rahab, /ˈreɪhæb/;[1] ฮีบรู: רָחָב, ใหม่: Raẖav, ไทบีเรียน: Rāḥāḇ, "กว้าง", "ใหญ่", อาหรับ: رحاب, พื้นที่กว้างใหญ่ของแผ่นดิน) ปรากฏในหนังสือโยชูวา เป็นหญิงต่างชาติ (หมายถึงไม่ใช่ชาวยิว) ผู้อาศัยในเมืองเยรีโคในแผ่นดินแห่งพระสัญญาและช่วยเหลือชาวอิสราเอลโดยการซ่อนตัวชายสองคนที่โยชูวาส่งมาสอดแนมในเมืองเยรีโคก่อนเข้าโจมตี[2] ในพันธสัญญาใหม่ ราหับได้รับการยกย่องทั้งในฐานะแบบอย่างของนักบุญผู้ใช้ชีวิตด้วยความเชื่อ[3] และในฐานะผู้ "ถูกชำระให้ชอบธรรม" จากการประพฤติของเธอ[4] จากงานวิจัยคัมภีร์ไบเบิลบ่งชี้ว่าผู้เขียนหนังสือโยชูวาตั้งใจเขียนว่าราหับไม่ได้มีส่วนร่วมในการพิชิตเมืองโยรีโคจริง ๆ เธอเพียงช่วยเหลือตัวเองและครอบครัวให้พ้นจากความตายในการสังหารหมู่โดยกองกำลังของชาวอิสราเอล[5][6]
![](http://upload.wikimedia.org/wikipedia/commons/thumb/5/59/Tissot_The_Harlot_of_Jericho_and_the_Two_Spies.jpg/220px-Tissot_The_Harlot_of_Jericho_and_the_Two_Spies.jpg)
ฉบับพระเจ้าเจมส์สะกดชื่อของราหับว่า Rachab ตามการสะกดในภาษากรีก แตกต่างจากการสะกดชื่อราหับในจดหมายของนักบุญยากอบและจดหมายถึงชาวฮีบรู คัมภีร์ไบเบิลฉบับแปลภาษาอังกฤษในยุคปัจจุบันส่วนใหญ่สะกดชื่อว่า Rahab[7]
ในคัมภีร์ฮีบรู
ในหนังสือโยชูวา[8] เมื่อชาวอิสราเอลตั้งค่ายอยู่ที่ชิทธีมในอาราบาห์หรือหุบเขาจอร์แดนตรงข้ามกับเมืองเยรีโค เตรียมการจะข้ามแม่น้ำจอร์แดน โยชูวาได้ส่งผู้สอดแนมสองคนเข้าไปตรวจสอบกำลังทหารในเยรีโค ผู้สอดแนมพักอยู่ที่บ้านของราหับซึ่งสร้างติดกับกำแพงเมือง กษัตริย์แห่งเยรีโคส่งทหารให้ไปจับตัวผู้สอดแนม ทหารบอกกับราหับให้ส่งตัวผู้สอดแนมออกมา[9] แต่ราหับซ่อนตัวผู้สอดแนมไว้ใต้กองต้นป่านบนหลังคาบ้าน เวลานั้นเป็นช่วงของการเก็บเกี่ยวข้าวบาร์เลย์ ป่านและข้าวบาร์เลย์ออกผลในเวลาเดียวกันในหุบเขาจอร์แดน ดังนั้น "กองต้นป่านอาจจะแห้งแล้วในเวลานั้น"[10]
ราหับบอกกับผู้สอดแนมว่า:
9 กล่าวแก่ชายเหล่านั้นว่า "ดิฉันทราบแล้วว่า พระยาห์เวห์ประทานแผ่นดินนี้แก่พวกท่าน ความกลัวพวกท่านครอบงำเรา และบรรดาชาวแผ่นดินก็หวาดกลัวพวกท่าน 10 เพราะพวกเราได้ยินเรื่องที่พระยาห์เวห์ทรงทำให้ทะเลแดงแห้งไปต่อหน้าท่าน เมื่อท่านออกจากอียิปต์ และเรื่องการที่ท่านได้ทำต่อกษัตริย์ทั้งสองของคนอาโมไรต์ ซึ่งอยู่ฟากตะวันออกของแม่น้ำจอร์แดน คือกษัตริย์สิโหนและโอก ผู้ซึ่งพวกท่านได้ทำลายเสีย 11 เพราะเรื่องท่านนี้แหละ พอพวกเราได้ยินข่าวนี้ เราก็ใจเสีย ไม่มีความกล้าหาญเหลืออยู่ในสักคนหนึ่งเลย เพราะพระยาห์เวห์พระเจ้าของท่านเป็นพระเจ้าของสวรรค์เบื้องบนและโลกเบื้องล่าง 12 บัดนี้ขอท่านสาบานให้ดิฉันในพระนามพระยาห์เวห์ว่า ในเมื่อดิฉันได้แสดงความเมตตาต่อท่านแล้ว ท่านจะแสดงความเมตตาต่อครอบครัวของดิฉันด้วย และให้มีหมายสำคัญอันแน่นอนต่อกัน 13 และขอไว้ชีวิตบิดามารดา พี่น้องชายหญิง และทุกคนที่เป็นของวงศ์ญาตินี้"
— โยชูวา 2:9–13[11]
หลังจากผู้สอดแนมหนีออกมา พวกเขาสาบานที่จะไว้ชีวิตราหับและครอบครัวหลังยึดเมืองได้แม้ว่าควรสังหารหมู่ชาวเมืองเยรีโคทุกคน หากเธอทำหมายสำคัญไว้ที่บ้านของเธอโดยการผูกเชือกด้ายแดงไว้ที่หน้าต่าง บางคนอ้างว่าสัญลักษณ์ของเชือกด้ายแดงนี้เกี่ยวข้องกับย่านโคมแดง[12]
เมื่อเมืองเยรีโคถูกตีแตก[13] ราหับและครอบครัวทั้งหมดได้รับการไว้ชีวิตตามคำมั่นของผู้สอดแนมและได้อาศัยอยู่ท่ามกลางชาวยิว (ในสงครามการล้อมในสมัยโบราณ คนในเมืองที่ถูกตีแตกหลังการปิดล้อมเป็นเวลานานมักถูกสังหารหมู่และปล้นชิง)