พอล แบเรอร์
วิลเลียม อัลวิน มูดดี (William Alvin Moody) (10 เมษายน ค.ศ. 1954 – 5 มีนาคม ค.ศ. 2013) เป็นผู้จัดการนักมวยปล้ำชาวอเมริกันที่ทำงานกับ WWE ในชื่อ พอล แบเรอร์ (Paul Bearer) และ เพอร์ซีวัล พริงเกิล ที่ 3 (Percival Pringle III) เป็นเจ้าของกระปุกสถิตวิญญาณที่เขาถืออยู่ตลอดเวลา และเป็นผู้จัดการของ ดิอันเดอร์เทเกอร์ และ เคน ปัจจุบันได้เข้าสู่หอเกียรติยศดับเบิลยูดับเบิลยูอีประจำปี 2014
Paul Bearer | |
---|---|
![]() | |
ชื่อเกิด | William Alvin Moody |
เกิด | 10 เมษายน ค.ศ. 1954 Mobile, Alabama, U.S. |
เสียชีวิต | มีนาคม 5, 2013 Mobile, Alabama, U.S. | (58 ปี)
สาเหตุ การเสียชีวิต | Heart attack |
คู่สมรส | Dianna McDole (สมรส 1978; เสียชีวิต 2009) |
บุตร | 2 |
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ | |
ชื่อบนสังเวียน | The Masked Embalmer Mr. X Dr. Rigor Mortis Percival Pringle III[1] Percy Pringle III Paul Bearer[2] |
ส่วนสูง | 5 ft 10 in (1.78 m)[3] |
เปิดตัว | June 1974 |
รีไทร์ | 2012 |
ชีวิตวัยเยาว์
มูดดีเกิดใน Mobile, Alabama เมื่อวันที่ 10 เมษายน ค.ศ. 1954 เขาเข้าเรียนที่ วิทยาลัยแซนแอนโทนีโอ และมหาวิทยาลัยเซาต์อลาบามา[4]
ในวงการมวยปล้ำ
พอล แบเรอร์ หรือชื่อจริง วิลเลียม อัลวิน "บิล" มูดดี เริ่มเข้ามาสู่วงการมวยปล้ำตั้งแต่สมัยเป็นวัยรุ่นโดยการเป็นช่างกล้องข้างเวที หลังเรียนจบเขาได้รับราชการทหาร และมักจะขึ้นปล้ำที่ค่ายอิสระในระหว่างเป็นทหารตลอด 4 ปี หลังจากนั้นในปี 1979 เขาได้เริ่มเป็นผู้จัดการให้กับนักมวยปล้ำโดยใช้ชื่อ เพอร์ซีวอล "เพอร์ซี" พริงเกิล, ที่ 3 ในค่ายมวยปล้ำอิสระทางตะวันออกเฉียงใต้ แต่เมื่อลูกชายเขาถือกำเนิดขึ้น เขาจึงออกจากวงมวยปล้ำหันมาทำธุรกิจของตัวเอง นั่นคือการจัดงานศพรวมไปถึงทุกๆ อย่างที่อยู่ในวงการธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องความตาย
ก่อนที่พอลจะเข้ามาใน WWE เขาได้กลับไปเป็นผู้จัดการให้กับนักมวยปล้ำอีกครั้งที่สมาคม FCW WCCW และ USWA ตามลำดับ มีนักมวยปล้ำหลายคนมากที่มีพอลในคาแรคเตอร์ของพริงเกิลเป็นผู้จัดการให้ แต่คงไม่มีนักมวยปล้ำคนไหน ที่โดดเด่น และเป็นที่ตรึงตาตรึงใจแฟนๆ มวยปล้ำเท่ากับบุรุษที่มีชื่อว่า ดิอันเดอร์เทเกอร์ อีกแล้ว[1]
พอลเข้าสู่สมาคม WWE ในช่วงทศรรษที่ 90 จากการพูดถึงของ ริก รูด ไปเข้าหูของ วินซ์ แม็กแมน โดยวินซ์ได้ใช้การที่พอลมีธุรกิจเกี่ยวกับเรื่องศพ ซึ่งเป็นธุรกิจในชีวิตจริงของพอลมาใช้ในวงการมวยปล้ำ โดยทางวินซ์ให้พอลมาเป็นผู้จัดการให้กับนักมวยปล้ำที่มีกิมมิคลึกลับ น่ากลัวอยู่ที่ชื่ออันเดอร์เทเกอร์
พอลปรากฏตัวครั้งแรกต่อสาธรณะชนเมื่อต้นปี 1991 จากการแนะนำของ บราเธอร์ เลิฟ มีกิมมิคทีลึกลับไม่แพ้ตัวอันเดอร์เทเกอร์ มีกระปุกสถิตวิญญาณอยู่ข้างกายอยู่กับอันเดอร์เทเกอร์ มาตลอด 6 ปี จนหักหลังอันเดอร์เทเกอร์โดยไปอยู่กับ แมนไคด์ จากนั้นก็เริ่มเรื่องราวระหว่างอันเดอร์เทเกอร์กับตัวเขา โดยมีเรื่องใหม่เข้ามา นั่นคือน้องชายของอันเดอร์เทเกอร์ ที่ชื่อว่า เคน[5]
เมื่อเคนเข้ามาสู่วงการมวยปล้ำเกิดเป็นศึกสายเลือดระหว่างพี่กับน้องพอลก็ไปอยู่ข้างเคน แต่พอเวาล่วงเลยไปก็กลับมาอยู่กับอันเดอร์เทเกอร์ อีกครั้งและสร้างกระทรวงแห่งความมืด หรือ Ministry of Darkness ขึ้นมาเพื่ออที่จะยึดครองสมาคม ก่อนที่กลายเป็น Coperate Ministry และแยกจากกันไปในที่สุด
พอลกลับมาอีกครั้งในช่วงปี 2000 โดยมาเป็นผู้จัดการของเคน แต่ก็หมดบทบาทในช่วงหลังศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 16 เขาจึงผันมาทำงานเบื้องหลังแทนจนสัญญาหมดในปี 2002 และไม่ต่อสัญญาแต่อย่างใด ย้ายไป TNA ช่วงนั้นๆโดยใช้กิมมิค เพอร์ซี พริงเกิล ที่ 3 ซึ่งเป็นกิมมิคดั้งเดิมของเขาเอง
พอลได้กลับมาอีกครั้งในปี 2003[6] และได้เปิดตัวการกลับมาเป็นผู้จัดการของอันเดอร์เทเกอร์ ในศึก เรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 20 ปีถัดมา ถือเป็นการเปลี่ยนกิมมิคของอันเดอร์เทเกอร์ จาก Big Evil มาเป็น The Phenom เหมือนเดิมด้วย เรียกได้ว่าการกลับมารวมกันครั้งนี้สุดแสนจะยิ่งใหญ่ อลังการงานสร้างเอามากๆเลย ทว่าสุดท้ายก็เป็นอันเดอร์เทเกอร์ที่เป็นคนจัดการพอลฝังโบกกับคอนกรีตในศึก เดอะเกรทอเมริกันแบช ปี 2004 ในปีนั้นเองพอลก็มาทำงานเป็นเบื้อหลังให้กับทางสมาคมต่อไปก่อนที่จะสิ้นสุดสัญญาลงในปี 2005[7][8]
ในปี 2010 พอลได้กลับเข้าสู่สมาคมอีกครั้ง โดยกลับมาเป็นผู้จัดการให้กับอันเดอร์เทเกอร์ที่มีปัญหาอยู่กับเคน แต่ไม่นานก็หักหลังไปอยู่กับเคน[9][10] และได้มีบทบาทร่วมกับ เอดจ์ จนสุดท้ายถูกเอดจ์เล่นงานหัวทิ่มลงพื้นซีเมนต์ข้างล่าง[11]
หลังจากนั้นอีก 2 ปีพอลได้ปรากฏตัวอีกครั้งแบบสั้นๆ ในเรื่องระหว่าง แรนดี ออร์ตัน กับเคน โดยถูกจับยัดอยู่ในห้องแช่แข็งก่อนที่เคนจะช่วยเหลือออกมา โดยทำทีเป็นช่วย แต่สุดท้ายเคนก็จับเข้าไปใหม่ถือเป็นการสิ้นสุดเรื่องราวและเป็นการปรากฏตัวครั้งสุดท้ายในสมาคม WWE[12] จนกระทั่งพอลได้เสียชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยโรคประจำตัวหลายอย่าง เมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2013 ขณะที่มีอายุได้ 58 ปี[13][14] ต่อมาพอลได้รับการบรรจุชื่อเข้าสู่หอเกียรติยศ WWE ในปี 2014[15][16]
ผลงาน
- Cauliflower Alley Club
- Other honoree (2003)
- George Tragos/Lou Thesz International Wrestling Institute
- Lou Thesz Award (2014)
- Gulf Coast Wrestlers Reunion
- Pioneer Award 2001 Member of the Board of Directors
อ้างอิง
แหล่งข้อมูลอื่น
- เว็บไซต์ทางการ
- Official blog
- WWE Hall of Fame profile
- WWE where are they now?
- Paul Bearer interview
- Pick My Brain with Paul Bearer เก็บถาวร 2014-11-13 ที่ เวย์แบ็กแมชชีน
- Interview with Paul Bearer เก็บถาวร 2013-01-19 ที่ archive.today