พระยาเทพวงศ์
พระยาเทพวงศ์ เจ้าหลวงเทพวงศ์ หรือ เจ้าหลวงอุปเสน ทรงเป็นเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 2 แห่งราชวงศ์แสนซ้าย ตรงกับรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว แห่งกรุงรัตนโกสินทร์
พระยาเทพวงศ์ | |||||
---|---|---|---|---|---|
เจ้าน้อยอุปเสน | |||||
พระยานครแพร่ | |||||
ครองราชย์ | ก่อน พ.ศ. 2348-พ.ศ. 2359[1] | ||||
รัชกาลก่อนหน้า | พระยาแสนซ้าย | ||||
รัชกาลถัดไป | พระยาอินทวิไชย | ||||
พิราลัย | พ.ศ. 2359 | ||||
พระชายา | แม่เจ้าสุชาดาราชเทวี | ||||
| |||||
พระบุตร | พระยาอินทวิไชย เจ้าปิ่นแก้ว เจ้าพุทธวงศ์ | ||||
ราชวงศ์ | แสนซ้าย | ||||
พระบิดา | พระยาแสนซ้าย | ||||
พระมารดา | แม่เจ้าเมืองแพร่อรรคราชเทวี |
เจ้าผู้ครองนครแพร่แห่ง ราชวงศ์แสนซ้าย | |
---|---|
* | พระยาแสนซ้าย |
* | พระยาเทพวงศ์ |
* | พระยาอินทวิไชย |
![]() | พระยาพิมพิสารราชา |
![]() | เจ้าพิริยเทพวงษ์ |
ราชประวัติ
พระยาเทพวงศ์ มีพระนามเดิมว่า "เจ้าน้อยอุปเสน" และมีอีกพระนามว่า "เทพวงษ์" ซึ่งมาจากชื่อทางพระ เป็นโอรสของพระยาแสนซ้าย เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 1 แห่งราชวงศ์แสนซ้าย[2] และก่อนขึ้นเป็นพระยาแพร่ ทรงเคยดำรงตำแหน่งพระเมืองไชย (พระเมืองใจ) มาก่อน ตามที่พระราชพงศาวดารกรุงรัตนโกสินทร์ รัชกาลที่ 4 ฉบับเจ้าพระยาทิพากรวงศมหาโกษาธิบดี (ขำ บุนนาค) กล่าวว่า
"...เมืองแพร่นั้น เมื่อแผ่นดินพระบาทสมเด็จฯ พระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกนั้น พระยาแสนซ้ายได้เป็นเจ้าเมือง ครั้นถึงแก่กรรมแล้ว โปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ตั้งพระเมืองใจบุตรพระยาแสนซ้ายเป็นพระยาแพร่..."[3]
พระองค์ทรงเป็นเจ้าหลวงที่มีปิยวาจา พูดไพเราะน่าฟัง พูดเก่ง พูดจาสิ่งใด ใครๆก็เชื่อฟังหมดจนชาวเมืองให้การเคารพนับถือ พับสาที่เก็บรักษาไว้ที่วัดดอยจ่าคำเรียกพระนามพระองค์ว่า "เจ้าหลวงลิ้นทอง (ลิ้นตอง)" อันเป็นนามที่สื่อถึงความสามารถด้านเจรจากับทุกฝ่ายผลประโยชน์ที่ลงตัวของกลุ่มชน มีผลสืบเนื่องให้เมืองแพร่ธำรงอยู่หนึ่งในห้าหัวเมืองประเทศราชล้านนา
พระยาเทพวงศ์ถึงแก่พิราลัย ในปี พ.ศ. 2359 พระอินทวิไชย ราชโอรสองค์โต จึงได้เสด็จขึ้นครองนครแพร่ต่อจากพระองค์เป็นพระยาอินทวิไชย ดังระบุในพับสาวัดดอยจำค่าว่า
"...เจ้าหลวงลิ้นทองเสวยเมืองอยู่ได้ ๔๕ ปี เถิงสวัรคต(สวรรต) ว่าง ๑ ปี เจ้าหลวงอินทวิไชยผู้เปนลูกขึ้นแทน..."
ราชโอรส-ธิดา
พระยาเทพวงศ์ ราชโอรส-ธิดา กับแม่เจ้าสุชาดา (ราชธิดาในพระยาศรีสุริยวงศ์ (พระเมืองไชย) เจ้าผู้ครองนครแพร่สมัยกรุงธนบุรี) ดังนี้
- เจ้าน้อยอินทวิไชย (อินต๊ะวิไจย) ต่อมาคือ พระยาอินทวิไชย เจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 3 ราชเทวีคือแม่เจ้าสุพรรณวดี[4]
- เจ้าปิ่นแก้ว (อ้างอิงจากหนังสือเชื้อสายเจ้าหลวงเมืองแพร่ 4 สมัย เรียบเรียงโดยบัวผิว วงศ์พระถาง เจ้าไข่มุกต์ ประชาศรัยสรเดช และร.ต.ดวงแก้ว รัตนวงศ์) สมรสกับเจ้าวังขวา มีโอรส-ธิดา ดังนี
- เจ้าเขียว สมรสกับ พระวังขวา (เจ้าหนานคำแสน)
- เจ้าพิมพิสาร ต่อมาคือ พระยาพิมพิสารราชาเจ้าผู้ครองนครแพร่ องค์ที่ 4 แห่งราชวงศ์แสนซ้าย ราชเทวีคือแม่เจ้าแก้วไหลมา
- เจ้าเรือนแก้ว สมรสกับ พระยาบุรีรัตน์ (เจ้าหนานปัญญา มหายศปัญญา)
- เจ้าแก้ววรรณา สมรสกับ พระวังซ้าย (เจ้าวังซ้ายเฒ่า)
- พระยาราชวงศ์ (เจ้าน้อยสุริยวงศ์) สมรสกับ เจ้าบัวคำ และเจ้าบัวจีน
- เจ้าพุทธวงศ์
ราชกรณียกิจ
- ทรงบูรณะวัดหัวข่วง(วัดสำเภา) และวัดศรีชุม(วัดท่านางเหลียว) เมืองแพร่
- ก่อนปีพ.ศ. 2353 มีการขุดเหมืองหลวง เพื่อให้ชาวเมืองได้ใช้น้ำโดยการผันน้ำจากลำน้ำแม่สาย
พระอิสริยยศ
- ก่อน พ.ศ. 2348 พระเมืองไชย (พระเมืองใจ)
- พ.ศ. 2348-2359 พระยานครแพร่
ราชตระกูล
พงศาวลีของพระยาเทพวงศ์ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
|
อ้างอิง
ก่อนหน้า | พระยาเทพวงศ์ | ถัดไป | ||
---|---|---|---|---|
พระยาแสนซ้าย เจ้าผู้ครองนครแพร่ | ![]() | เจ้าผู้ครองนครแพร่ (ก่อน พ.ศ. 2348 - พ.ศ. 2359) | ![]() | พระยาอินทวิไชย เจ้าผู้ครองนครแพร่ |