นกกางเขน

สปีชีส์ของนก
นกกางเขน
ตัวผู้ (♂) ที่ดอยอ่างกา
ตัวเมีย (♀) ที่ดอยอ่างกา
สถานะการอนุรักษ์
การจำแนกชั้นทางวิทยาศาสตร์
อาณาจักร:Animalia
ไฟลัม:Chordata
ชั้น:Aves
อันดับ:Passeriformes
วงศ์:Muscicapidae
สกุล: Copsychus
สปีชีส์:C.  saularis
ชื่อทวินาม
Copsychus saularis
(Linnaeus, 1758)

นกกางเขน หรือ นกกางเขนบ้าน (อังกฤษ: Oriental magpie robin, ชื่อวิทยาศาสตร์: Copsychus saularis) เป็นนกชนิดหนึ่งที่กินแมลง มีขนาดไม่ใหญ่นัก ยาวประมาณ 18-20 เซนติเมตร[2] ส่วนบนลำตัวสีดำเงา ส่วนล่างตั้งแต่หน้าอกลงไปจะเป็นสีขาวหม่น ใต้หางและข้างหางมีสีขาว ปีกมีลายพาดสีขาวทั้งปีก ตัวผู้สีจะชัดกว่าตัวเมีย ส่วนที่เป็นสีดำในตัวผู้ ในตัวเมียจะเป็นสีเทาแก่ ปากและขาสีดำมักจะพบเป็นตัวเดียวหรือเป็นกลุ่มเล็ก ๆ[3]หากินแมลงตามพุ่มไม้ บางครั้งก็โฉบจับแมลงกลางอากาศ หางของมันมักกระดกขึ้นลง ร้องเสียงสูงบ้าง ต่ำบ้าง ฟังไพเราะ ทำรังตามโพรงไม้ที่ไม่สูงนัก มันจะวางไข่ครั้งละ 4-5 ฟองและตัวเมียเท่านั้นจะกกไข่ และจะฟักไข่นานประมาณ 8-14 วัน[2][4]อายุ 15 วัน แล้วจะเริ่มหัดบิน ในประเทศไทยพบทั่วไปในทุกภาคแม้ในเมืองใหญ่ ๆ เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535[5]

นกกางเขนเป็นนกเกาะคอน (อันดับ Passeriformes) ที่เคยจัดเป็นวงศ์นกเดินดง (Turdidae) แต่ปัจจุบันจัดอยู่ในวงศ์นกจับแมลงและนกเขน (Muscicapidae)[2]เป็นนกสีดำขาวที่เด่น มองเห็นได้ง่าย มีหางยาวที่จะกระดกขึ้นลงเมื่อหาอาหารที่พื้นหรือจับบนต้นไม้เป็นนกที่มีอยู่กระจายไปทั่วเอเชียใต้และบางส่วนของเอเชียอาคเนย์ เป็นนกที่สามัญทั้งตามสวนในเมืองและในป่าเป็นนกที่รู้จักกันดีเพราะร้องเสียงเพราะ และเคยเป็นนกเลี้ยงที่นิยมนกกางเขนเป็นนกประจำชาติของประเทศบังกลาเทศ ซึ่งเรียกนกว่า "Doyel"

ชื่ออังกฤษของนกคือ Oriental Magpie Robin อาจจะเป็นเพราะนกดูคล้ายนกสาลิกาปากดำ (Common Magpie)[6]

ลักษณะ

ซ้ายตัวผู้ ขวาตัวเมีย ถ่ายที่รัฐมหาราษฏระ ประเทศอินเดีย
ตัวเมียของสปีชีส์ย่อยที่เป็นต้นแบบ

นกสปีชีส์นี้ยาวประมาณ 19 ซ.ม. รวมหาง มีรูปร่างคล้ายกับ European robin (Erithacus rubecula) แต่หางจะยาวกว่าตัวผู้มีส่วนบนเป็นสีดำตรงส่วนของหัวและคอ ที่ต่างหากจากแถบขาวตรงไหล่และปีก ส่วนข้างล่างและด้านข้างของหางยาวเป็นสีขาวตัวเมียมีสีดำออกเทาด้านบนและสีขาวออกเทาด้านล่างส่วนลูกนกจะมีมีสีน้ำตาลเป็นเกล็ดด้านบนและที่หัว (ดูภาพด้านล่าง)นกกางเขนเป็นนกประจำชาติของประเทศบังกลาเทศ

สปีชีส์ย่อยต้นแบบ (nominate subspecies) พบในเอเชียใต้ ตัวเมียของพันธุ์ย่อยนี้มีสีอ่อนที่สุดส่วนตัวเมียของหมู่เกาะอันดามันมีชื่อสปีชีส์ย่อยเป็น andamanensis มีสีเข้มกว่า มีปากที่แข็งแรงกว่า และมีหางที่สั้นกว่าส่วนสปีชีส์ย่อยในประเทศศรีลังกาที่มีชื่อว่า ceylonensis (ซึ่งก่อนหน้านี้รวมนกในอินเดียที่อยู่ทางใต้เขตแม่น้ำกาเวรี[7])และสปีชีส์ย่อยต้นแบบที่อยู่ทางใต้ของอินเดียประกอบด้วยตัวผู้ตัวเมียที่มีสีเกือบเหมือนกัน

ส่วนนกในเขตประเทศภูฏานและประเทศบังกลาเทศมีขนหางที่ดำมากกว่า และก่อนหน้านี้มีชื่อต่างหากว่า erimelas[8] ส่วนนกในประเทศพม่าและทางใต้ของไทย มีชื่อสปีชีส์ย่อยว่า musicus[9] (เป็นคุณศัพท์ภาษาละตินแปลว่า "เกี่ยวกับดนตรี") ซึ่งต่างที่ขนคือ ขนหางคู่ที่ 3 เป็นสีดำโดยมาก และคู่ที่ 4 เป็นสีดำล้วนหรือเกือบล้วน ส่วนใต้ปีกก็เป็นสีดำล้วนหรือเกือบล้วน[10]มีชื่อสปีชีส์ย่อยอื่น ๆ ตามเขตภูมิภาครวมทั้ง prosthopellus (ฮ่องกง), nesiotes, zacnecus, nesiarchus, masculus, pagiensis, javensis, problematicus, amoenus, adamsi, pluto, deuteronymus และ mindanensis[11] แต่ว่า พันธุ์ย่อย ๆ หลายอย่างเหล่านี้ไม่มีความแตกต่างที่ชัดเจน และยังไม่มีมติที่ลงตัวกัน[12] มีบางสปีชีส์ย่อยเช่น mindanensis ที่นักวิชาการบางพวกปัจจุบันจัดเป็นสปีชีส์ต่างหากเช่น Philippine magpie-robin[13] ขนของตัวเมียต่างไปตามเขตภูมิภาคมากกว่าของตัวผู้[10]

นกมักจะเห็นในที่ใกล้ ๆ พื้น กระโดดไปมาตามกิ่งไม้ หรือหาอาหารตามใบไม้แห้งโดยมีหางกระดกขึ้นลงตัวผู้จะร้องเสียงดังไพเราะจากกิ่งไม้สูงในฤดูผสมพันธุ์[8]

แถบที่อยู่

นกกางเขนเป็นนกอยู่ประจำในเขตร้อนของทวีปเอเชีย ตั้งแต่ประเทศบังกลาเทศ, ทางใต้ของประเทศจีน, ประเทศอินเดีย, ทางตะวันออกของประเทศอินโดนีเซีย, ประเทศมาเลเซีย, ทางตะวันออกของประเทศปากีสถาน, ประเทศสิงคโปร์, ประเทศศรีลังกา, ประเทศไทย[8] และเป็นนกนำเข้าในประเทศออสเตรเลีย[14]

นกกางเขนมักจะพบในป่าโปร่ง ป่าชายเลน พื้นที่เกษตรกรรม สวนผลไม้ สวนสาธารณะในเมือง เมืองใหญ่ มักจะอยู่ใกล้ที่อยู่ของมนุษย์ เป็นนกที่พบได้ทั่วประเทศไทย[15]

พฤติกรรม

ไข่นกกางเขน
ลูกนกในประเทศศรีลังกา สีน้ำตาลเป็นลายเกล็ดที่ด้านบนและหัว ต่างจากนกที่โตเต็มที่แล้ว

นกกางเขนผสมพันธุ์กันในระหว่างเดือนมีนาคมจนถึงเดือนกรกฎาคมในอินเดีย และในระหว่างเดือนมกราคมจนถึงเดือนมิถุนายนในเอเชียอาคเนย์ตัวผู้ร้องเสียงไพเราะจากที่สูงในช่วงจีบตัวเมียลีลาแสดงตัวของตัวผู้รวมทั้งทำขนให้ฟูขึ้น ยกปาก คลี่หาง และเดินวางมาด[7] นกทำรังในโพรงไม้ หรือที่เวิ้งกำแพงหรืออาคาร และบางครั้งจะเข้าไปอยู่ในกล่องที่ทำไว้ให้นกอยู่นกจะเอาหญ้าและฟางมาปูรังตัวเมียจะทำการสร้างรังมากกว่า และจะทำก่อนการวางไข่ประมาณอาทิตย์หนึ่งนกจะวางไข่ 4-5 ฟองภายใน 24 ชม. ไข่มีรูปร่างกลมรี มีสีเขียวอ่อน ๆ มีจุดสีน้ำตาล ดูเข้ากับสีของหญ้าและฟางที่ปูในรังตัวเมียเท่านั้นจะกกไข่เป็นเวลา 8-14 วัน[2][4][16] รังนกจะมีกลิ่นแบบเฉพาะตัว[2]

ตัวเมียเลี้ยงลูกมากกว่าตัวผู้ส่วนตัวผู้จะค่อนข้างดุในฤดูผสมพันธุ์ จะป้องกันอาณาเขตของตน[17] และจะมีปฏิกิริยาต่อเสียงนกอื่นในอาณาเขต หรือแม้แต่เงาในกระจกของตนเอง[18] ตัวผู้จะทำการป้องกันอาณาเขตมากกว่าตัวเมีย[19]งานศึกษาต่าง ๆ พบว่า เสียงร้องของนกจะต่างไปตามถิ่น แม้แต่นกที่อยู่ใกล้ ๆ กัน[20] นกอาจจะเลียนแบบเสียงร้องของนกสปีชีส์อื่น ๆ[21][22] ซึ่งอาจจะแสดงว่า นกที่โตแล้วจะย้ายกระจายไปที่อื่น ไม่กลับมาที่กำเนิด (philopatric)[23] ตัวเมียอาจจะส่งเสียงร้องระยะสั้น ๆ เมื่อเจอตัวผู้[24]

นอกจากเพลงที่ร้องแล้ว นกยังส่งเสียงร้องประเภทหลัก ๆ รวมทั้งการประกาศอาณาเขต (territorial call) การออกและการกลับรัง (emergence and roosting call) การแสดงภัย (threat call) การยอมแพ้ (submissive call) การขออาหาร (begging call) และการร้องทุกข์ (distress call) ส่วนเสียงร้องประเภทอื่น ๆ ที่ใช้เป็นบางครั้งคือ เสียงร้องหนี (escape call) และเสียงร้องฉุน (anger call)[25] นอกจากนั้นแล้ว ยังมีเสียงร้องให้รุมตี (mobbing call) อีกด้วย[7][8][26] อาหารโดยมากเป็นแมลงและสัตว์ไม่มีกระดูกสันหลังอื่น ๆแต่บางครั้งก็จะกินน้ำหวานดอกไม้ ตุ๊กแก (และจิ้งจก)[27][28] ปลิง[29] ตะขาบ[30] และแม้แต่ปลาด้วย[31]

นกจะออกมาหากินบ่อยครั้งในยามสายัณห์[8] บางครั้งจะเล่นน้ำฝนที่รวมอยู่ที่ใบไม้[32]

นกกางเขนเป็นนกขยันทำมาหากิน เมื่ออิ่มก็จะบินขึ้นไปเกาะที่โล่ง ๆ สูง ๆ เช่นสายไฟ เสาอากาศ แล้วร้องเสียงไพเราะ และเมื่อหิวก็จะลงมาหากินใหม่ มักจะได้ยินเสียงทั้งในเวลาอรุณและในยามสายัณห์[15]

สถานะการอนุรักษ์

โดยทั่วไปนกกางเขนนี้มีสถานะความเสี่ยงต่ำต่อการสูญพันธุ์ (little concern) แต่ในบางภูมิภาคประชากรเริ่มลดจำนวนลง และบางแห่งลดอย่างรวดเร็วจนกระทั่งมีนักวิชาการท้องถิ่นสนับสนุนมาตรการเพื่อช่วยให้นกสามารถอยู่รอดได้ โดยอ้างว่า[2]

นกกางเขนกำลังหมดไปรวดเร็วอย่างไม่น่าเชื่อ เป็นนกที่รู้จักกันดีเพราะเพลงที่มีเสน่ห์และขนที่สวยงาม เป็นนกที่ช่วยรักษาความสมดุลในระบบนิเวศและมีประโยชน์ต่อเกษตรกรรมเพราะโดยทั่วไปกินแมลงที่ทำอันตรายและหนอนก่อโรค ควรทำทุกอย่างเพื่อสนับสนุนให้มีสำนึกเกี่ยวกับ C. saularis และเพื่อรักษามรดกธรรมชาตินี้[2]

การจับไปเป็นสัตว์เลี้ยงและการเปลี่ยนแปลงทางนิเวศน์ก็มีส่วนทำให้ลดจำนวนลง ดังนั้นจึงเป็นนกที่มีกฎหมายป้องกันในบางพื้นที่[33]

ในประเทศสิงคโปร์และฮ่องกง นกชนิดนี้ค่อนข้างจะสามัญในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920 แต่เริ่มลดจำนวนลงในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 เชื่อกันว่าเพราะเหตุการแข่งขันจากนกเอี้ยงสาริกาที่นำมาจากถิ่นอื่น[34] ปัจจุบันยังจัดอยู่ในประเภท "สิ่งมีชีวิตที่ใกล้การสูญพันธุ์" (endangered) ในประเทศสิงคโปร์[35]

ในประเทศไทย เป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตามพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พุทธศักราช 2535 จึงห้ามล่า พยายามล่า ห้ามค้า ห้ามนำเข้าหรือส่งออก ห้ามครอบครอง ห้ามเพาะพันธุ์ ห้ามเก็บหรือทำอันตรายรัง การห้ามการครอบครองและการค้ามีผลไปถึงไข่และซาก[5]

นกกางเขนมีนกล่าเหยื่อที่เป็นศัตรูน้อยแต่ว่ามีการรายงานถึงเชื้อโรคและปรสิตหลายอย่าง

ในวัฒนธรรมต่าง ๆ

รูปปั้นนกที่จตุรัสนกกางเขน (Doyel Chatwar) มหานครธากา ประเทศบังกลาเทศ

ในอดีต คนอินเดียได้เลี้ยงนกกางเขนเพราะมีเสียงเพราะและเพื่อการตีนก[40] และปัจจุบันก็ยังเป็นนกที่ถูกจับมาเลี้ยงในบางส่วนของเอเชียอาคเนย์

นกกางเขนเป็นนกประจำชาติของประเทศบังกลาเทศซึ่งมีนกอยู่ทั่วไปอย่างสามัญโดยเรียกว่า Doyel หรือ Doel (เบงกอล: দোয়েল)มีการใช้เป็นสัญลักษณ์ต่าง ๆ เป็นจำนวนมากในประเทศ รวมทั้งบนธนบัตร มีจุดสำคัญในมหานครธากาที่เรียกว่า Doyel Chatwar แปลว่า จตุรัสนกกางเขน

นกกางเขนเป็นสัญลักษณ์ของสมาคมอนุรักษ์นกและธรรมชาติแห่งประเทศไทย (Bird Conservation Society of Thailand) ก่อตั้งขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2529[6] และในวัฒนธรรมปักษ์ใต้ของไทย โดยเฉพาะเพลงร่วมสมัย มักจะมีการอ้างอิงถึงนกกางเขนบ่อย ๆ โดยเรียกว่า "นกบินหลา" ด้วยเป็นนกที่รักและหวงถิ่นฐาน เหมือนคนใต้รักถิ่นที่อยู่[41]

เชิงอรรถและอ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลหน้าหลักพระสุนทรโวหาร (ภู่)องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024สไปร์ท (แร็ปเปอร์)ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พุ่มพวง ดวงจันทร์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อีดิลอัฎฮาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวราชวงศ์จักรีลำดับโปเจียมแห่งราชอาณาจักรไทยรายชื่อตัวละครในพระอภัยมณีหม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคลทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระอภัยมณีหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคลหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลานม่าอริยสัจ 4ตารางธาตุนิราศภูเขาทองรายชื่อเครื่องดนตรีเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคประเทศไทยอาณาจักรอยุธยาปิติ ภิรมย์ภักดีวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย