ทีซีแอลคอร์ปอเรชัน

บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 1981 โดยใช้ชื่อแบรนด์คือ TTK ซึ่งเป็นผู้ผลิตเทปคาสเซ็ท ผลิตเทปคาสเซ็ทราคาประหยัด ในปี 1995 หลังจากที่โดนบริษัท TDK ฟ้องร้องว่าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา บริษัท TTK ก็ได้เปลี่ยนชื่อแบรนด์ใหม่เป็น TCL โดยใช้พยัญชนะตัวแรกของคำว่า Telephone Communiation Limited และได้เริ่มผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับผู้บริโภค ในช่วงทศวรรษที่ 1980 ก่อนที่จะเริ่มส่งออกขายไปยังต่างประเทศในช่วงทศวรรษที่ 2000 และแม้ว่าบริษัทจะมีรัฐบาลเป็นเจ้าของ TCL ก็ถูกจัดตั้งเป็นกิจการร่วมค้า ร่วมกับกลุ่มนักลงทุนจากฮ่องกง

ในเดือนกรกฎาคม ปี 2003 ประธานบริษัท TCL ลิ ดองเช็ง ก็ประกาศแผนงานในชื่อ “มังกรและเสือ” อย่างเป็นทางการ เพื่อจัดตั้งสองธุรกิจที่มีขีดการแข่งขันสูงในตลาดโลก (“มังกร”) และสามธุรกิจชั้นนำภายในประเทศจีน (“เสือ”)

ในเดือนพฤศจิกายน 2003 TCL และ Thomson SA ของประเทศฝรั่งเศส ประกาศร่วมมือก่อตั้งกิจการค้าร่วม เพื่อผลิตโทรทัศน์และเครื่องเล่นดีวีดี ทั่วโลก โดย TCL ถือสัดส่วนหุ้น 67% ในกิจการค้าร่วมนี้ และให้ Thomson SA ถือหุ้นที่เหลือกอีก 37% ภายใต้เงื่อนไขคือโทรทัศน์ที่ผลิตโดย TCL-Thomson จะใช้ชื่อทางการตลาดภายใต้แบรนด์ TCL ในเอเชีย และแบรนด์ Thomson และ RCA ในยุโรปและอเมริกาเหนือ ในเดือนเมษายน 2004 TCL และ Alcatel ก็ได้ร่วมประกาศกิจการค้าร่วมเป็นผู้ผลิตโทรศัพท์มือถือโดยใช้ชื่อ Alcatel Mobile Phones โดย TCL ใช้เงินอัดฉีดกว่า 55ล้าน ยูโร ในธุรกิจค้าร่วมนี้ แลกกับการได้ถือสัดส่วนหุ้นจำนวน 55%

ในเดือนพฤษภาคม 2005 TCL ก็ได้ประกาศว่าบริษัทย่อย ซึ่งมีชื่ออยู่ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง จะทำการเข้าซื้อหุ้นที่เหลือจำนวน 45% ในธุรกิจค้าร่วม มูลค่า 63.34ล้าน ฮ่องกงดอลลาร์ (8.1ล้าน ดอลลาร์สหรัฐ) โดยให้เทียบเท่าเป็นหุ้นของ TCL Communication แทนเงินสด ในเดือนมิถุนายน 2007 TCL ประกาศว่าธุรกิจโทรศัพท์มือถือ จะหยุดใช้ชื่อแบรนด์ Alcatel และเปลี่ยนไปใข้ชื่อ TCL ภายในระยะเวลาห้าปี

ในเดือนเมษายน 2008 Samsung Electronics ประกาศว่าจะมีการทำสัญญาจ้าง TCL ให้ทำการผลิตโทรทัศน์บางรุ่นแทน ในเดือนกรกฎาคม 2008 TCL ประกาศแผนการระดมทุนจำนวน 1,700ล้าน หยวน (249ล้าน ดอลลาร์) ด้วยการออกหุ้นในตลาดหลักทรัพย์เชินเจิ้น เพื่อนำมาใช้ในการก่อสร้างโรงงานผลิตทีวีใหม่สองแห่ง; แห่งแรกสำหรับรุ่นจอถึงขนาด 42 นิ้ว และอีกแห่งสำหรับรุ่นจอถึงขนาด 56 นิ้ว TCL สามารถขายชุดทีวี LCD ได้ถึง 4.18ล้าน ชุด ในปี 2008 ซึ่งมากกว่าสามเท่าตัวของยอดขายปี 2007

ในปี 2008 TCL เริ่มการผลิตจอ LCD รุ่นแรก อย่างเป็นทางการ ในเดือนมกราคม 2009 TCL ประกาศแผนเพิ่มกำลังการผลิตทีวี LCD ขึ้นสองเท่า เป็นจำนวน 10ล้าน หน่วย ให้ได้ ภายในปี 2009 ในเดือนพฤศจิกายน 2009 TCL ประกาศการทำธุรกิจค้าร่วมกับรัฐบาลเชินเจิ้น เพื่อก่อสร้างโรงงานผลิตฟิล์มบางรุ่น 8.5 ที่ใช้ในกระบวนการผลิตจอแอลซีดี ในเมืองเชินเจิ้น มูลค่าการก่อสร้าง 3.9พันล้าน ดอลลาร์

ในเดือนมีนาคม 2010 TCL Multimedia ระดมทุนได้จำนวน 525ล้าน ดอลลาร์ฮ่องกง จากการขายแชร์ในตลาดหลักทรัพย์ฮ่องกง เพื่อนำมาใช้ในการพัฒนาธุรกิจจอ LCD และ LED และเพื่อเป็นทุนในการประกอบกิจการ ในเดือนพฤษภาคม 2011 TCL เปิดตัว China Smart Multimedia Terminal Technology Association โดยร่วมมือกับ Hisense Electric Co. และ Sichuan Changhong Electric Co., โดยมีเป้าหมายเพื่อกำหนดมาตรฐานอุตสาหกรรมในธุรกิจโทรทัศน์อัจฉริยะ หรือ สมาร์ททีวี

ในปี 2011 บริษัทลูกของ TCL คือ CSOT ได้เริ่มทำการผลิตจอ LCD รุ่น 8.5 ^[1]

ในปี 2014 TCL ได้ทำการเปลี่ยนความหมายชื่อตัวอักษรของบริษัทจาก “Telephone Communication Limited” เป็นสโลแกนของแบรนด์คือ “The Creative Life” เพื่อใช้ทางค้า ในเดือนตุลาคม 2014 TCL ซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อยี่ห้อ Palm จากบริษัท HP เพื่อใช้ในสมาร์ทโฟน

ในปี 2016 TCL บรรลุข้อตกลงกับบริษัท BlackBerry Limited เพื่อทำการผลิตสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ BlackBerry ในชื่อ BlackBerry Mobile ^[2] ในเดือนสิงหาคม 2016 TCL และ SEMP ร่วมนามก่อตั้งกิจการค้าร่วมในบราซิล ภายใต้ชื่อ SEMP TCL ^[3]

ในเดือนพฤศจิกายน 2016 TCL-CSOT เริ่มการก่อสร้างสายการผลิตจอ TFT-LCD รุ่นที่ 11 ซึ่งถือเป็นรุ่นสูงสุด ด้วยมูลค่าการลงทุนกว่า 46.5ล้าน หยวน ^[4] ในเดือนมิถุนายน 2018 CSOT ซึ่ง TCL เป็นเจ้าของ ประกาศการเริ่มผลิตจอรุ่นสูงหลายรุ่น

วันที่ 27 มิถุนายน 2018 TCL Electronics Technology Holdings Limited ประกาศเปลี่ยนชื่อทางการเป็น TCL Electronics Holdings Limited (“TCL Electronics”). ^[5] ในเดือนพฤศจิกายน 2018 TCL เริ่มสายการผลิตจอรุ่นสูงสุดในเซินเจิ้น, จีน

20 ธันวาคม 2018 TCL ขยายการเติบโตสู่ตลาดโลก ด้วยการก่อสร้างนิคมอุตสาหกรรมครบวงจรนอกประเทศแห่งแรก ในเมืองทิรูปาตี ประเทศอินเดีย ^[6]

ในเดือนมกราคม 2013 TCL ซื้อสิทธิ์การใช้ชื่อของ Grauman’s Chinese Theatre ด้วยวงเงิน 5ล้าน ดอลลาร์ ในปี 2014 TCL NA เป็นผู้สนับสนุนการเงินให้กับรายการ The Ellen Show โดยเริ่มตั้งแต่ปี 2014-2015 ในปี 2015 TCL ลงนามสัญญาเป็นผู้สนับสนุนการเงินให้กับ สมาคมบาสเก็ตบอลประเทศฟิลิปปินส์ หรือ PBA ^[7]

ในปี 2017 บริษัท Tencent ได้จับมือกับบริษัท TCL FFALCON TECHNOLOGY เพื่อตีตลาดทีวีออนไลน์ ในเดือนตุลาคม 2017 TCL ร่วมมือกับ Warner Bros. Pictures กับโครงการ Highly Anticipated Justice League Movie โดยถือเป็นพาร์ทเนอร์รายการทีวีระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการ^[8] วันที่ 5 กุมภาพันธ์ 2018 TCL แต่งตั้งให้ยอดนักฟุตบอล เนย์มาร์ ให้เป็นตัวแทนของแบรนด์ในการทำตลาดทั่วโลก และมีการเซ็นสัญญาเป็นระยะเวลา 2 ปี ^[9] ในเดือนมิถุนายน 2018 TCL ประกาศการร่วมมือทั่วโลกกับ สหพันธุ์บาสเก็ตบอลนานาชาติ (FIBA) ^[10]

2015

• TCL ได้รับรางวัลแบรนด์ผู้จ้างงานยอดเยี่ยมของทวีปเอเชีย เป็นปีที่สี่ติดต่อกัน ^[11]

2016

• TCL ได้รับรางวัลเหรียญทอง Quantum Dot Technology จาก IFA Product Technical Innovation Award ปี 2016 ^[12]

2017

• ทีวีรุ่น C70 ของ TCL ได้รับรางวัล “BEST BUY 2017-2018” จาก EISA
• TCL ได้รับรางวัลดีไซน์ของ iF ปี 2017 จากทีวีรุ่น X1 และ X2 รวมถึงรีโมทีวีรุ่น RC800
• ทีวีซีรียส์ C2 โดย TCL ได้รับรางวัล Red Dot Award: ประเภทการออกแบบทีวีและอุปกรณ์บันเทิงในบ้าน ^[13]

2018

• TCL ได้รับรางวัลนวัตกรรมแห่งปี 2018 ของงาน CES จากชุดทีวี จอขนาด 85” รุ่น QLED XESS Private Theatre X6.
• ชนะเลิศ 50 แบรนด์เครื่องใช้ไฟฟ้าประจำปี 2017-2018 ของ IDG ^[14]
• ชนะเลิศการเพิ่มส่วนแบ่งการตลาดทีวี LCD ในอเมริกาเหนือ โดย NPD ^[15]
• ทีวี TCL รุ่น C6 ได้รับรางวัล Global Smart TV Audio-Visual Experience Award แห่งปี IDG ^[16]
• ทีวีซีรียส์ 6 ของ TCL ได้รับรางวัล EDITOR’S CHOICE จาก CNET ^[17]
• ทีวีรุ่นเรือธง QLED TV X8 ของ TCL ได้รับรางวัล เทคโนโลยีจอภาพ “Display Technology Gold Award” จากงานIFA 2018. ^[18]
• TCL UHD Smart TV Cityline Series C76 (55DC760 Model) ซึ่งเป็นเวอร์ชันยุโรปของรุ่น C6 ได้รับรางวัล “Best Buy LCD TV 2018-2019” จาก EISA ^[19]

TCL ประกอบด้วย 5 ธุรกิจหลักคือ:

• มัลติมีเดีย: ชุดโทรทัศน์
• การสื่อสาร: โทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์ MIFI
• อุปกรณ์ภายในบ้าน: เช่นเครื่องปรับอากาศ และ เครื่องซักผ้า
• เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน: ผลิตภัณฑ์ ODM (ออกแบบได้เอง) เช่น DVD
• China Star Optoelectronics Technology (CSOT): หน้าจอสำหรับทีวี

นอกจากนั้น บริษัทก็ยังทำธุรกิจอื่นๆอีก 4 ประเภท:

• อสังหาริมทรัพย์และการลงทุน
• การขนส่งและบริการ
• การศึกษาออนไลน์
• การเงิน

TCL ประกอบธุรกิจ มากกว่า 160 เมือง ในแอฟริกา, เอเชีย, ออสเตรเอเชีย, ยุโรป, อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ โดยมีศูนย์ค้นคว้าวิจัย 28 แห่ง, 23 โรงงานผลิตแห่งใหญ่ และ 80 สำนักงานขาย ครอบคลุมกว่า 160 ประเทศทั่วโลก

TCL Corporation มีศูนย์ค้นคว้าวิจัยของตัวเองที่ชื่อว่า TCL Corporate Research ซึ่งตั้งอยู่ในเชินเจิ้น ประเทศจีน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำการค้นคว้าวิจัยนวัตกรรมเทคโนโลยีล้ำสมัยให้กับบรรดาบริษัทลูกของ TCL

ผลิตภัณฑ์หลักของ TCL คือ โทรทัศน์, เครื่องเล่นดีวีดี, เครื่องปรับอากาศ, โทรศัพท์มือถือ, เครื่องใช้ในบ้าน, อุปกรณ์ให้แสงสว่าง และดิจิทัลมีเดีย โดยจัดจำหน่างผลิตภัณฑ์หลักๆ ภายใต้ชื่อแบรนด์:

• TCL (ในแอฟริกา, เอเชีย, ออสเตรเอเชีย, ยุโรป, อเมริกาเหนือ, อเมริกาใต้ และรัสเซีย) (โทรทัศน์ และ เครื่องปรับอากาศ);
• Alcatel และ Thomson โทรศัพท์มือถือ (ทั่วโลก)
• BlackBerry (สมาร์ทโฟน) ทั่วโลก
• RCA เครื่องใช้ไฟฟ้าในสหรัฐอเมริกา

ณ เดือนเมษายน 2012 บริษัท TCL มีการทำกิจการร่วมค้า กับบริษัทเฟอร์นิเจอร์ยักษ์ใหญ่ ของประเทศสวีเดนคือ IKEA เพื่อผลิตและจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้า ก็คือระบบความบันเทิงครบวงจร HDTV ของ Uppleva

ในปี 2016 TCL ทำสัญญาการผลิตโทรศัพท์มือถือรุ่น DTEK50 และ DTEK60 ให้กับบริษัท BlackBerry Limited ภายใต้ชื่อแบรนด์ของ BlackBerry และในเดือนธันวาคม 2016 ก็ได้รับใบอนุญาต ของแบรนด์ BlackBerry ได้สิทธิ์ในการผลิต, จำหน่ายและออกแบบอุปกรณ์สื่อสารทั่วโลก จนถึงปี 2017 TCL ก็เป็นผู้จัดจำหน่างอุปกรณ์สื่อสารของ BlackBery ภายใต้ชื่อ BlackBerry Mobile TCL ก็ยังเป็นเจ้าของแบรนด์ Palm อีกด้วย

• Official Website