จอน ม็อกซ์ลีย์

(เปลี่ยนทางจาก ดีน แอมโบรส)

โจนาธาน เดวิด กู๊ด (Jonathan David Good; 7 ธันวาคม ค.ศ. 1985)[4][5] เป็นนักมวยปล้ำอาชีพและนักแสดงชาวอเมริกันที่รู้จักกันใน WWE ภายใต้นาม ดีน แอมโบรส (Dean Ambrose) ได้แชมป์ WWE, แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล, แชมป์ยูเอสที่ครองนานสุดอันดับ 3 ในประวัติศาสตร์ และนานสุดในWWE 351 วัน, แชมป์แท็กทีม WWE, ผู้ชนะมันนีอินเดอะแบงก์ (2016), แชมป์ทริปเปิลคราวน์คนที่ 27, แชมป์แกรนด์สแลมคนที่ 16 และอายุน้อยที่สุด เขาเปิดตัวกับ WWE ในเดือนพฤศจิกายนปี 2012 ร่วมกับเซธ รอลลินส์และโรแมน เรนส์ในฐานะกลุ่มเดอะชีลด์

Jon Moxley
ชื่อเกิดJonathan David Good
เกิด (1985-12-07) 7 ธันวาคม ค.ศ. 1985 (38 ปี)
Cincinnati, Ohio, U.S.
คู่สมรสRenee Paquette
(สมรส 2017)
บุตร1
ประวัติมวยปล้ำอาชีพ
ชื่อบนสังเวียนDean Ambrose
Jon Moxley
ส่วนสูง6 ฟุต 2 นิ้ว (188 เซนติเมตร)[1]
น้ำหนัก234 ปอนด์ (106 กิโลกรัม)[2]
มาจากCincinnati, Ohio[3]
ฝึกหัดโดยCody Hawk
Les Thatcher
เปิดตัว2004

เขายังปล้ำให้กับสมาคม AEW และสมาคมอิสระในนาม จอน ม็อกซ์ลีย์ (Jon Moxley) ได้รับการโหวตให้เป็นนักมวยปล้ำที่ได้รับความนิยมสูงสุดแห่งปี (Most Popular Wrestler of the Year) โดย Pro Wrestling Illustrated ในปี 2014 และ 2015[6] และได้รับการเสนอชื่อเป็นนักมวยปล้ำแห่งปี (Wrestler of the Year) โดย Sports Illustrated ในปี 2019[7] นอกจากนี้เขายังติดอันดับ PWI 500 ของนักมวยปล้ำ 500 อันดับแรกของโลกในปี 2020 นอกวงการมวยปล้ำเขาได้แสดงเป็นพระเอกในภาพยนตร์เรื่อง 12 Rounds 3: Lockdown (2015) และในฐานะตัวร้ายในหนังแอคชั่นกีฬา Cagefighter: Worlds Collide (2020)

มวยปล้ำอาชีพ

สมาคมอิสระ

จอน ม็อกซ์ลีย์ได้ปล้ำอยู่สมาคมอิสระระหว่างปี 2004 และ 2011[8] ร่วมงานกับสมาคม Full Impact Pro(FIP), Combat Zone Wrestling(CZW), Ring of Honor(ROH), Evolve(EVOLVE)[9][10][11][12] และ Dragon Gate USA(DGUSA)[13][14][15] และมีผลงานมากมายเช่น CZW World Heavyweight Championship 2สมัย[16][17][18], FIP World Heavyweight Championship 1 สมัย[19][20], HWA Heavyweight Championship 3สมัย[21], HWA Tag Team Championship 5สมัย ร่วมกับ Jimmy Turner (1), Ric Byrne (1), Cody Hawk (1) และ King Vu (2)[22], MPW Heavyweight Championship 1 สมัย, MPW Tag Team Championship 1 สมัย ร่วมกับ Vance Desmond, IPW World Heavyweight Championship 2สมัย[23][24][25][26], IPW Mid-American Championship 1 สมัย, IWA World Tag Team Championship 1 สมัย[27][28] ร่วมกับ Hade Vansen และ wXw World Tag Team Championship 1 สมัย ร่วมกับ Sami Callihan[29] วันที่ 1 พฤษภาคม 2019 หลังออกจาก WWE ได้มีวิดิโอโปรโมตว่าจอน ม็อกซ์ลีย์จะกลับมาปล้ำในสมาคมอิสระ[30]

ดับเบิลยูดับเบิลยูอี

วันที่ 4 เมษายน 2011 เขาได้เซ็นสัญญากับ WWE และ Dragon Gate USA ได้อนุญาตปล่อยตัวเขาออกจากสมาคม[31] เขาเคยปรากฏตัวในสมาคมในนาม จอน ม็อกซ์ลีย์ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2006 ร่วมปล้ำแท็กทีมกับแบรด แอตติจูด แพ้ให้เอ็มเอ็นเอ็ม[5] วันที่ 27 พฤษภาคม 2011 เขาได้เข้าร่วมค่ายพัฒนาทักษะของ WWE, ฟลอริดาแชมเปียนชิปเรสต์ลิง(FCW) ภายใต้ชื่อ ดีน แอมโบรส[32][33] แอมโบรสเปิดตัวใน FCW วันที่ 3 กรกฎาคม โดยการท้าทายเซท รอลลินส์ อีกหนึ่งนักมวยปล้ำที่โดดเด่นในสมาคมอิสระ[32][34] ทั้งคู่ได้มีแมตช์เจอกันครั้งแรกในการชิงแชมป์ FCW 15 แบบ Iron Man 15 นาที ตอนที่ 14 สิงหาคมของ FCW โดยแมตช์จบลงด้วยการเสมอ ทำให้รอลลินส์ยังเป็นแชมป์[35] ในการแข่งขันรอบที่ 2 เพื่อการชิงแชมป์ วันที่ 18 กันยายนของ FCW รอลลินส์ทำแต้มชนะ 3-2[32][35] แอมโบรสสามารถเอาชนะรอลลินส์ไปได้แบบไม่ชิงแชมป์ในรอบแรกของทัวร์นาเมนต์ Super Eight หาแชมป์ฟลอริดาเฮฟวี่เวท FCWคนใหม่[36] แต่ก็แพ้ลีโอ ครูเกอร์ในรอบสุดท้ายแบบสี่เส้า[36] แอมโบรสยังมีความแค้นกับรอลลินส์เพื่อตำแหน่งแชมป์ FCW 15 โดยการทำร้ายแดเมียน แซนดาว ในระหว่างการชิงแชมป์กับรอลลินส์ทำให้รอลลินส์ถูกปรับฟาล์ว[37] แอมโบรสไม่สามารถชิงแชมป์ FCW 15 มาจากแซนดาวได้[38] ก่อนที่ลีอากีชนะทั้งแอมโบรสและรอลลินส์แบบสามเส้าเพื่อหาผู้ท้าชิงอันดับ1 ในการชิงแชมป์ฟลอริดาเฮฟวี่เวท FCW[39] แอมโบรสเริ่มปรากฏตัวในเฮาส์โชว์ของ WWE ในเดือนธันวาคม 2011[40]

เดอะชีลด์: แอมโบรส, รอลลินส์ และเรนส์

แอมโบรสเปิดตัวค่ายหลักในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2012) พร้อมกับเซท รอลลินส์และโรแมน เรนส์ในนามเดอะชีลด์ โดยมารุมเล่นงานไรแบ็กก่อนจับใส่ท่า Triple Powerbomb กับบนโต๊ะผู้บรรยาย ทำให้ซีเอ็ม พังก์จับกดจอห์น ซีนาชนะป้องกันแชมป์ WWEไว้ได้[41] ในทีแอลซี (2012) เดอะชีลด์ได้ปล้ำแมตช์แรกชนะไรแบ็กและทีมเฮลโน(เคนและแดเนียล ไบรอัน)ในการต่อสู้ด้วยโต๊ะ บันได และเก้าอี้[42] ในรอว์ 7 มกราคม เดอะชีลด์ได้ออกมารุมทำร้ายไรแบ็กในการชิงแชมป์ WWE ทำให้พังก์ป้องกันแชมป์ได้อีกครั้ง[43] ในรอยัลรัมเบิล (2013)เดอะชีลด์ได้แอบมารุมทำร้ายเดอะร็อก ระหว่างการชิงแชมป์ WWE ซึ่งในตอนแรกพังก์กดนับ 3 ชนะ แต่วินซ์ แม็กแมนออกมาบอกให้เริ่มใหม่เลยทำให้เดอะร็อกคว้าแชมป์ไปได้[44] รอว์คืนต่อมา หลังจากจอห์น ซีนาประกาศเลือกท้าชิงแชมป์ WWE ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 29 เดอะชีลด์ก็มารุมลอบทำร้ายซีนา แม้ว่าเชมัสกับไรแบ็กจะออกมาช่วยแต่ก็โดนรุมทำร้าย สุดท้ายเดอะชีลด์เล่นงานซีนาด้วยท่า Triple Powerbomb[45] รอว์ 4 กุมภาพันธ์ เดอะชีลด์โดนซีนา, ไรแบ็ก และเชมัสล้อมเอาไว้ ทำให้เดอะชีลด์วิ่งหนีไปทางหลังเวทีแต่แรนดี ออร์ตันนำทัพนักมวยปล้ำออกมาขวางเอาไว้ เดอะชีลด์เลยโดนทีมซีนาอัดจนน่วม ก่อนที่จะหนีไปทางอัฒจรรย์[46] รอว์ 11 กุมภาพันธ์ เดอะชีลด์ออกมาท้าทายกลุ่มของซีนาว่าถ้าอยากมีเรื่องก็ออกมาเจอกันเดี๋ยวนี้ได้เลย ปรากฏว่าไฟในสนามดับ แล้วกลุ่มของซีนาก็ออกมาไล่อัดเดอะชีลด์จนหนีกระเจิง[47] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2013) เดอะชีลด์เอาชนะทีมซีนาไปได้[48] ในเรสเซิลเมเนีย 29 เดอะชีลด์ได้เอาชนะเชมัส, แรนดี ออร์ตัน และบิ๊กโชว์[49] รอว์คืนต่อมา ดิอันเดอร์เทเกอร์ได้ออกมาขออุทิศชัยชนะให้กับพอล แบเรอร์ ที่ชนะซีเอ็ม พังก์ในเรสเซิลเมเนีย เดอะชีลด์ออกมารุมล้อมอันเดอร์เทเกอร์ แต่เคนกับแดเนียล ไบรอันก็ออกมาช่วย[50] ในรอว์ 22 เมษายน เดอะชีลด์ได้เอาชนะอันเดอร์เทเกอร์, เคน และไบรอัน[51] ในสแมคดาวน์ 26 เมษายน หลังจากแพ้อันเดอร์เทเกอร์นั้นเดอะชีลด์ได้รุมเล่นงานเทเกอร์จนต้องหายไป[52]

เป็นแชมป์ยูเอสที่ครองนานสุดในWWE ด้วยเวลา351วัน และนานสุดเป็นอันดับ3 ในประวัติศาสตร์

ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2013) แอมโบรสได้คว้าแชมป์ยูเอสสมัยแรกโดยชนะโคฟี คิงส์ตัน คืนเดียวกันรอลลินส์กับเรนส์ได้คว้าแชมป์แท็กทีม WWEจากทีมเฮลโน ทำให้เดอะชีลด์มีแชมป์ครบทั้งทีม[53][54][55] ในเดือนสิงหาคม 2013 เดอะชีลด์ได้เข้าร่วมกลุ่มดิออธอริตี ของประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการ ทริปเปิลเอช[56] ในรอว์ 27 มกราคม เดอะชีลด์ได้ปล้ำแทกทีม 6 คนกับ แดเนียล ไบรอัน, เชมัส และจอห์น ซีนา เพื่อที่จะเข้าไปปล้ำชิงแชมป์ WWEในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2014) แต่ก็ไม่ชนะเพราะเดอะไวแอ็ตต์แฟมิลีเข้ามาก่อกวนทำให้เดอะชีลด์แพ้ฟาวล์ เดอะชีลด์จึงท้าเจอกับไวแอ็ตต์แฟมิลี ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ แต่สุดท้ายเดอะชีลด์ก็แพ้ไป[57] ในปลายเดือนมีนาคมเดอะชีลด์ได้เป็นฝ่ายธรรมะ[58][59] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 30ชนะเคนกับเดอะนิวเอจเอาต์ลอวส์[60] หลังจากจบเรสเซิลเมเนีย ในรอว์คืนต่อมา แชมป์โลกอย่าง แดเนียล ไบรอัน ได้มาฉลองกับผู้ชม ก่อนจะถูกขัดจังหวะโดยทริปเปิลเอชและเขาได้ขอชิงแชมป์ในคืนนั้น โดยก่อนเริ่มแมตช์นั้นสเตฟานี แม็กแมนได้สั่งให้ เคน, บาทิสตา และออร์ตัน ทำร้ายไบรอันเป็นการสร้างจุดอ่อน และทำให้ทริปเปิลเอชมีโอกาสในการชนะมากขึ้น จนเดอะชีลด์ได้ออกมาจัดการกับพวกกลุ่มของทริปเปิลเอช และได้ช่วยไบรอันจากการกลั่นแกล้งจากกลุ่มทริปเปิลเอช[61] ในรอว์ 14 เมษายน เดอะชีลด์ต้องปล้ำในแฮนดิแคป 11 รุม 3 แต่กรรมการต้องยุติแมตช์ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายอัดกันไม่หยุด ก่อนที่ทริปเปิลเอช, ออร์ตัน และบาทิสตา จะออกมาในนามของกลุ่มเอฟโวลูชั่น เพื่อจัดการกลุ่มเดอะชิลด์โดยเฉพาะ ก่อนจะทำอัดเดอะชิลด์จนหมดสภาพ[62] และประกาศแมตช์อย่างเป็นทางการในสแมคดาวน์ 18 เมษายน ระหว่างเดอะชีลด์เจอกับเอฟโวลูชั่น ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2014) ซึ่งเดอะชีลด์เป็นฝ่ายชนะ[63]

หลังจากเดอะชีลด์ได้รับชัยชนะในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ ดูเหมือนว่าความแค้นของเอฟโวลูชั่นจะยังไม่จบลง เมื่อในรอว์คืนต่อมาแอมโบรสต้องป้องกันแชมป์ยูเอสกับนักมวยปล้ำ 19 คนในแบทเทิลรอยัล โดยเชมัสเป็นฝ่ายชนะคว้าแชมป์ไปในทันที และจบสถิติการครองแชมป์ของแอมโบรส 351 วัน[64] ก่อนที่เอฟโวลูชั่นจะตามมาก่อกวน และทำร้ายเดอะชีลด์ในแมตช์ที่ต้องเจอกับไวแอ็ตต์แฟมิลี[65][66] รอว์สัปดาห์ต่อมา เดอะชีลด์ได้ออกมาท้าเอฟโวลูชั่น หลังจากที่ได้ทำร้ายพวกเขาในสัปดาห์ที่ผ่านมา และรถลีมูซีนกลุ่มเอฟโวลูชั่นก็โผล่มาทางจอยักษ์ในสนาม ทำให้เดอะชีลด์ไม่รอช้าตามไปอัดถึงที่จนกรรมการต้องออกมาห้าม และเอฟโวลูชั่นก็ได้รับคำท้าที่จะเจอกันในเพย์แบ็ค ขณะที่บาทิสตาท้าขอเจอกับโรแมน เรนส์ในคู่เอกของรายการ ซึ่งในแมตช์นั้นสมาชิกที่เหลือของเอฟโวลูชั่น และเดอะชีลด์ต่างก็ยืนอยู่ข้างเวที และในระหว่างแมตช์ทั้งสองฝ่ายต่างอัดกันจนกรรมการบนเวทีต้องยุติการปล้ำ แต่เดอะชีลด์ก็ยังไม่หยุด สเตฟานีจึงเรียกนักมวยปล้ำคนอื่นๆ มาช่วยจัดการเดอะชีลด์ แต่ไม่สำเร็จ และยังโดนเดอะชีลด์เล่นงานคืนได้สำเร็จ ในเพย์แบ็ค (2014) เดอะชีลด์เอาชนะเอฟโวลูชั่นไปได้อีกครั้งแบบแท็กทีม 6 คน ไม่มีกฎกติกา คัดออก รอว์คืนต่อมา บาทิสตาได้ออกจากเอฟโวลูชั่น คืนเดียวกันโรแมน เรนส์มีคิวเจอกับแรนดี ออร์ตัน โดยออร์ตันออกมากับทริปเปิลเอชที่ถือค้อนมาด้วย ทำให้เดอะชีลด์พากันไปหยิบเก้าอี้มาเตรียมไว้ ทริปเปิลเอชบอกว่าบาทิสตามันหนีไปแล้ว แต่เราก็มีแผน 2 เสมอ... ว่าแล้วรอลลินส์ก็เอาเก้าอี้ฟาดใส่เรนส์จากด้านหลัง จากนั้นก็ฟาดแอมโบรสอีกคน รอลลินส์เอาเก้าอี้ไปยื่นให้ออร์ตันเพื่อเอาไปฟาดเรนส์กับแอมโบรสต่ออีก จากนั้นก็ RKO เรนส์ลงบนเก้าอี้ ปิดท้ายรายการโดยมีรอลลินส์ยืนอยู่กับออร์ตันและทริปเปิลเอช เป็นอันว่ารอลลินส์ได้แยกทีมกับเดอะชีลด์ไปแล้ว[67][68]

ในตอนเปิดศึกกับเซท รอลลินส์

ในสแมคดาวน์ 13 มิถุนายน แอมโบรสกับเรนส์ประกาศจะเข้าร่วมมันนีอินเดอะแบงก์ ทริปเปิลเอชโผล่มาทางจอยักษ์ และบอกว่าเหลือที่ว่างอีกแค่ที่เดียวเท่านั้น ดังนั้นจะใช้วิธีการโยนเหรียญตัดสิน ผลการโยนเหรียญคือแอมโบรสจะได้โอกาสปล้ำรอบคัดเลือกเพื่อเข้าสู่มันนีอินเดอะแบงก์โดยเจอกับเบรย์ ไวแอ็ตต์ ระหว่างแมตช์นั้นรอลลินส์ได้มาก่อกวน ทำให้แอมโบรสแพ้หมดสิทธิ์[69] ต่อมาแอมโบรสแค้นได้ออกมาอัดรอลลินส์ เคนออกมาช่วยแต่แอมโบรสก็ถีบเคนตกเวทีไปแล้วก็เหวี่ยงรอลลินส์ลงไปอัดเคนอีก ก่อนที่แอมโบรสจะรีบหนีไป ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2014)นั้นรอลลินส์เป็นฝ่ายชนะจากการช่วยเหลือของเคนที่เล่นงานแอมโบรส[70] ในแบทเทิลกราวด์ (2014)แพ้รอลลินส์โดยการปรับ เพราะถูกไล่ออกจากสนามหลังจากทำร้ายรอลลินส์[71] ในซัมเมอร์สแลม (2014)แพ้รอลลินส์ในลัมเบอร์แจ็กโดยมีนักมวยปล้ำอยู่รอบเวที[72] ในรอว์คืนต่อมาทั้งคู่ได้รีแมตช์กันแบบจับกดที่ไหนก็ได้ โดยแอมโบรสถูกรอลลินส์กระโดดเหยียบศีรษะ Curb Stomp อัดกับก้อนอิฐจนแพ้น็อก ทำให้ต้องถูกหามขึ้นเปลส่งโรงพยาบาล[73] ซึ่งเป็นบทให้แอมโบรสต้องหายจากการปล้ำเพื่อไปแสดงภาพยนตร์ Lockdown[74]

แอมโบรสได้กลับมาล้างแค้นรอลลินส์ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2014)[75] ในรอว์ 13 ตุลาคม ได้เอาชนะจอห์น ซีนาคว้าสัญญาที่อยู่บนยอดเสาไปเจอกับรอลลินส์ในกรงเหล็กเฮลอินเอเซล (2014)แต่แอมโบรสแพ้จากการก่อกวนของเบรย์ ไวแอ็ตต์[76] ทำให้เจอกันในเซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2014) แต่แอมโบรสแพ้ฟาล์วเพราะใช้เก้าอี้[77] ในทีแอลซี (2014)ได้รีแมตช์กันในรูปแบบ TLC โดยเบรย์ชนะไปได้[78] ในรอว์ 19 มกราคม ได้เอาชนะแชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัล แบด นิวส์ บาร์เร็ตต์[79] ทำให้ได้สิทธิ์ชิงแชมป์ในฟาสต์เลน (2015) ผลปรากฏว่าแอมโบรสถูกปรับแพ้ฟาล์ว[80] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 31ได้เข้าร่วมแมตช์ไต่บันไดชิงแชมป์อินเตอร์[81] แต่ไม่สามารถคว้าแชมป์ได้[82] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2015)ชนะฮาร์เปอร์ไปได้แบบชิคาโกสตรีต์ไฟต์ เป็นชัยชนะครั้งแรกในศึกใหญ่หลังจากแพ้ติดต่อกันถึง 9 ศึก[83] ในเพย์แบ็ก (2015)แอมโบรสได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลก 4 เส้ากับรอลลินส์(แชมป์), แรนดี ออร์ตัน และโรแมน เรนส์[84] แต่ไม่ได้แชมป์[85] ในอิลิมิเนชั่น แชมเบอร์ (2015)ได้ชิงแชมป์โลกกับรอลลินส์ แต่แอมโบรสชนะฟาล์วเพราะรอลลินส์ดึงกรรมการมาป้องกันตัว ทำให้แอมโบรสอัดโดนกรรมการ หลังแมตช์ถูกออธอริตีรุมทำร้าย แต่เรนส์ออกมาช่วย และแอมโบรสก็ขโมยเข็มขัดไป[86] ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2015)ได้รีแมตช์กับรอลลินส์แบบไต่บันได แต่ไม่ได้แชมป์[87] ในซัมเมอร์สแลม (2015)ได้ร่วมทีมกับเรนส์ชนะเบรย์และฮาร์เปอร์ไปได้[88] คืนต่อมาไวแอ็ตต์แฟมิลีได้เปิดตัวสมาชิกใหม่อย่างบรอน สโตรว์แมน[89] ในไนท์ออฟแชมเปียนส์ (2015)แอมโบรสกับเรนส์ได้ปล้ำแท็กทีม 6 คนเจอกับไวแอ็ตต์แฟมิลี โดยคริส เจริโคได้มาร่วมทีมเป็นคนที่สามแต่ก็แพ้[90]

แชมป์อินเตอร์คอนติเนนทัลในเดือนธันวาคม 2016

ในเดือนพฤศจิกายน รอลลินส์ได้รับบาดเจ็บและต้องสละแชมป์โลก ทำให้มีการจัดทัวร์นาเมนต์หาแชมป์คนใหม่[91] แอมโบรสได้เข้าร่วมและสามารถผ่านเข้ารอบมาได้โดยชนะไทเลอร์ บรีซ[92], ดอล์ฟ ซิกก์เลอร์[93] และเควิน โอเวนส์ แต่ก็แพ้ให้โรแมน เรนส์ในรอบชิงที่เซอร์ไวเวอร์ซีรีส์ (2015)[94] ในทีแอลซี (2015)แอมโบรสได้คว้าแชมป์อินเตอร์สมัยแรกจากโอเวนส์[95] ในรอยัลรัมเบิล (2016)ป้องกันแชมป์กับโอเวนส์ไว้ได้แบบลาสแมนสแตนดิ้ง[96] คืนเดียวกันได้เป็นรองผู้ชนะรอยัลรัมเบิลชิงแชมป์โลกโดยทริปเปิลเอชคว้าแชมป์ไปได้[97] ในรอว์คืนต่อมา สเตฟานีได้ประกาศจัดแมตช์สามเส้าระหว่าง แอมโบรส, โรแมน เรนส์ และบร็อก เลสเนอร์ในฟาสต์เลน (2016)เพื่อหาผู้ท้าชิงแชมป์กับทริปเปิลเอชในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 32[98] โดยก่อนฟาสต์เลนในรอว์ 15 กุมภาพันธ์ แอมโบรสเสียแชมป์อินเตอร์คืนให้เควิน โอเวนส์ในแมตช์ 5 เส้า (Fatal 5-Way)[99] ในฟาสต์เลนไม่สามารถคว้าสิทธิ์ผู้ท้าชิงอันดับ 1 ได้[100] ในรอว์วันต่อมาแอมโบรสได้ถูกเลสเนอร์ลอบทำร้าย[101] ก่อนประกาศท้าเจอเลสเนอร์แบบสตรีตไฟต์ไม่มีกฏกติกาในเรสเซิลเมเนีย[102] ในโรดบล็อกแพ้ทริปเปิลเอชในการชิงแชมป์โลก[103] ในเรสเซิลเมเนียแพ้เลสเนอร์[104]

ในมันนีอินเดอะแบงก์ (2016)ได้คว้ากระเป๋าสิทธิ์ชิงแชมป์โลก[105] และใช้สิทธิ์ได้แชมป์สมัยแรกจากรอลลินส์ที่เพิ่งได้จากเรนส์[106] คืนต่อมาเขาได้ประกาศเจอทั้งรอลลินส์และเรนส์ชิงแชมป์สามเส้าในแบทเทิลกราวด์ (2016)[107][108] 19 กรกฎาคม แอมโบรสได้ถูกดราฟท์ไปสแมคดาวน์ในฐานะแชมป์ WWE[109] ในแบทเทิลกราวด์ป้องกันแชมป์ไว้ได้[110] ในซัมเมอร์สแลม (2016)ป้องกันแชมป์กับดอล์ฟ ซิกก์เลอร์ไว้ได้[111] ในแบ็กแลช (2016)เสียแชมป์ให้เอเจ สไตส์[112] ในสแมคดาวน์ 3 มกราคม 2017 ได้คว้าแชมป์อินเตอร์สมัยที่2จากเดอะมิซ[113] ในรอยัลรัมเบิล (2017)ได้ร่วมเป็นลำดับที่12 ซึ่งอยู่นานเกือบ 27 นาทีก่อนถูกบร็อก เลสเนอร์เหวี่ยงออก[114][115] ในเรสเซิลเมเนีย ครั้งที่ 33ป้องกันแชมป์ได้จากแบรอน คอร์บิน[116] 10 เมษายน 2017 แอมโบรสได้ย้ายมาสังกัดรอว์ในฐานะแชมป์อินเตอร์[117] ในเอ็กซ์ตรีมรูลส์ (2017)เสียแชมป์คืนให้เดอะมิซ[118] ในซัมเมอร์สแลม (2017)ได้ร่วมทีมกับรอลลินส์คว้าแชมป์รอว์แท็กทีม WWEจากซีซาโรและเชมัส ทำให้แอมโบรสเป็นสมาชิกเดอะชีลด์คนแรกที่ได้แชมป์แกรนด์สแลมและแชมป์ทริปเปิลคราวน์ของWWE[119][120] ก่อนเสียแชมป์คืนให้ซีซาโรและเชมัส[121] ในปลายปี 2017 แอมโบรสได้รับบาดเจ็บที่ไทรเซบทำให้ต้องพักหลายเดือน[122][123]

หลังจากพักรักษาตัวไป 8 เดือนแอมโบรสก็ได้กลับมาช่วยเพื่อนอย่างเซท รอลลินส์จนคว้าแชมป์อินเตอร์จากดอล์ฟ ซิกก์เลอร์(พร้อมดรูว์ แม็กอินไทร์)ได้ในซัมเมอร์สแลม (2018)[124][125] ในรอว์วันต่อมาแอมโบรสกับรอลลินส์ได้แต่งชุดเดอะชีลด์ออกมาช่วยเรนส์ที่เป็นแชมป์ยูนิเวอร์แซลจากการแคชอินกระเป๋าของบรอน สโตรว์แมนเป็นการรวมกลุ่มเดอะชีลด์อีกครั้ง[126] ในรอว์ 22 ตุลาคม แอมโบรสกับรอลลินส์ได้คว้าแชมป์รอว์แท็กทีมร่วมกันอีกครั้งก่อนที่จะหักหลังรอลลินส์และกลายเป็นฝ่ายอธรรม[127] และคว้าแชมป์อินเตอร์ได้จากรอลลินส์เป็นสมัยที่ 3[128] ก่อนเสียให้บ็อบบี แลชลีย์[129] ในฟาสต์เลน 2019 เดอะชีลด์ได้รวมทีมกันอีกครั้งเอาชนะแบรอน คอร์บิน, บ็อบบี แลชลีย์ และดรูว์ แม็กอินไทร์ไปได้[130] ในรายการพิเศษ The Shield's Final Chapter เดอะชีลด์รวมทีมกันเป็นครั้งสุดท้ายสามารถเอาชนะคอร์บิน, ดรูว์ และแลชลีย์ไปได้อีกครั้ง[131] ในเดือนเมษายน 2019 แอมโบรสได้หมดสัญญาและลาออกจาก WWE[3]

ออลอีลีตเรสต์ลิงและสมาคมอื่น

ในเดือนพฤษภาคม 2019 เขาได้เซ็นสัญญากับสมาคม All Elite Wrestling (AEW) โดยใช้นาม Jon Moxley[132][133] ในศึก Best Of The Super Jr. ของ NJPW วันที่ 5 มิถุนายน 2019 Mox สามารถคว้าแชมป์ IWGP United States Championship เป็นเส้นแรกใน NJPW[134][135] ในศึก Revolution ของ AEW 29 กุมภาพันธ์ 2020 Mox สามารถคว้าแชมป์โลก AEW จากคริส เจอริโคได้สำเร็จ[136] และยังได้คว้าแชมป์โลกของสมาคม GCW อีกด้วย[137][138] ในศึก AEW×NJPW: Forbidden Door 26 มิถุนายน 2022 Mox เอาชนะ Hiroshi Tanahashi สามารถคว้าแชมป์โลกเฉพาะกาลของ AEW ได้สำเร็จ[139][140] ใน AEW Dynamite 24 สิงหาคม 2022 Mox สามารถเอาชนะแชมป์โลก AEW ตัวจริงอย่างซีเอ็มพังก์ไปได้ทำให้ Mox เป็นแชมป์โลก AEW อย่างเป็นทางการสมัยที่ 2[141] ก่อนเสียคืนให้พังก์ใน All Out[142] และคว้ากลับมาได้อีกครั้งเป็นสมัยที่ 3 ทำให้เป็นคนแรกที่คว้าแชมป์โลกของ AEW ถึง 3 สมัย[143] ก่อนเสียให้ MJF ใน AEW Full Gear 2022[144] ในศึก All Out 2023 สามารถคว้าแชมป์อินเตอร์เนชันแนล AEW สมัยแรกได้จากออเรนจ์ แคสซิดี[145] ก่อนเสียให้ Rey Fénix ในรายการ AEW Dynamite Grand Slam หลังครองได้เพียง 17 วัน[146] ในศึก Windy City Riot เขาสามารถคว้าแชมป์โลก IWGP ได้จากเท็ตสึยะ ไนโตะทำให้เป็นคนแรกที่คว้าแชมป์โลกได้ทั้ง 3 สมาคม WWE, AEW และ NJPW[147]

ผลงานแสดง

ปีเรื่องรับบทหมายเหตุ
201512 Rounds 3: LockdownJohn ShawCredited as Dean Ambrose
2016CountdownHimselfUncredited
2020Cagefighter: Worlds CollideRandy Stone

ชีวิตส่วนตัว

เขาอาศัยอยู่ในลาสเวกัสเนวาดา[148] เขาเป็นแฟนตัวยงของบ้านซินซินนาติกาลส์และฟิลาเดลเฟียใบปลิว[149] เขาเป็นที่รู้จักในนามของบุคคลที่มีความเป็นส่วนตัวอย่างมากและไม่ได้ใช้สื่อสังคมออนไลน์ในปี 2014 "ผมไม่รู้สึกว่าจำเป็นต้องเปิดตัวด้วยความคิดของทุกคนในโลกด้วยโทรศัพท์หรือคอมพิวเตอร์ การเชื่อมต่อกับทุกคนในระดับผิวเผินเช่นนั้นไม่จริงสำหรับฉัน"[150] ในปี 2015 เขากล่าวว่า "ฉันพยายามทำให้ตัวเองปิดตัวออกจากโลกเพราะมีบางสิ่งแปลกๆ ออกไป"[151]

ตั้งแต่ปี 2013 เขาได้มีความสัมพันธ์กับเรเน พาเกตต์(เรเน ยังในWWE)[152][153] เมื่อวันที่ 12 เมษายน 2017 เรเนประกาศในทวิตเตอร์ว่าตอนนี้เธอแต่งงานกับดีนแล้ว[154] พวกเขาได้แต่งงานกันอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 9 เมษายน 2017[155][156] และมีลูกคนแรกในเดือนพฤศจิกายน 2020[157][158]

เพื่อให้ใกล้ชิดกับแพทย์ที่แนะนำมากขึ้นในระหว่างที่เขาฟื้นตัวจากแขนที่ได้รับบาดเจ็บในปี 2018 เขาอาศัยอยู่ช่วงระยะเวลาหนึ่งในเมืองเบอร์มิงแฮม รัฐแอละแบมา ซึ่งเขาได้ทำสัญญากับ MRSA ที่แขนของเขา[159] ในเวลาต่อมาเขาบอกว่าการติดเชื้อเกือบจะฆ่าเขาแล้ว[160] ในเดือนพฤศจิกายน 2021 ตามคำร้องขอของเขา โทนี่ ข่านประกาศว่า เขาได้เข้ารับการบำบัดเพื่อแก้ไขปัญหาโรคพิษสุราเรื้อรัง[161] เขากลับมาเล่นมวยปล้ำอีกสามเดือนต่อมา[162]

เขาเริ่มเรียนศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานในปี 2019 จากบทบาทของเขาในภาพยนตร์เรื่อง Cagefighter: Worlds Collide (2020)[163] หลังจากที่เขาถ่ายทำเสร็จแล้ว เขายังคงฝึก MMA ต่อไปที่ Xtreme Couture[164] ซึ่งรวมถึงการฝึกกับ Randy Couture ด้วยตัวเองด้วย[165] เขาลงแข่งขันที่ NAGA Cincinnati Grappling Championships เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม 2023 โดยชนะประเภทชาย no-gi ผู้เริ่มต้น/รุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวท/รุ่นอายุ 30+ โดยการเอาชนะ Chris Sailor ซึ่งเป็นผู้เข้าแข่งขันเพียงคนเดียวในกลุ่มนั้น[166][167] ในงานเดียวกัน เขาลงแข่งขันในประเภท no-gi ผู้เริ่มต้น/รุ่นน้ำหนักสัมบูรณ์ของผู้ชาย โดยเอาชนะเซเลอร์อีกครั้งในรอบแรกก่อนที่จะแพ้ด้วยการยอมแพ้ในรอบที่สอง[168] เขากลับมาแข่งขันในรายการ Twisted Tournament: Cincinnati เมื่อวันที่ 19 สิงหาคม เข้าสู่ดิวิชั่น 2 อีกครั้ง แต่แพ้การแข่งขันทั้งหมด[169][170]

แชมป์และรางวัล

มวยปล้ำอาชีพ

การต่อสู้ซับมิสชั่น

  • North American Grappling Association
    • NAGA Cincinnati Grappling Championship Gold Medalist - Men No-Gi / Beginner / 225 - 249.9 (Super Heavy Weight) / Master (30+)[214][215][166]

หมายเหตุ

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

🔥 Top keywords: พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลหน้าหลักพระสุนทรโวหาร (ภู่)องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024สไปร์ท (แร็ปเปอร์)ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พุ่มพวง ดวงจันทร์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อีดิลอัฎฮาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวราชวงศ์จักรีลำดับโปเจียมแห่งราชอาณาจักรไทยรายชื่อตัวละครในพระอภัยมณีหม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคลทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระอภัยมณีหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคลหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลานม่าอริยสัจ 4ตารางธาตุนิราศภูเขาทองรายชื่อเครื่องดนตรีเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคประเทศไทยอาณาจักรอยุธยาปิติ ภิรมย์ภักดีวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย