พลตรี คมกฤช รัตนฉายา | |
---|---|
![]() พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา | |
ชื่อเล่น | แม็กซ์ |
เกิด | 30 มกราคม พ.ศ. 2508 (59 ปี)[1] |
รับใช้ | ![]() |
แผนก/ | ทหารพราน กองทัพบกไทย |
ชั้นยศ | ![]() |
บังคับบัญชา | หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี[3] |
การยุทธ์ | ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย[4][5] |
ความสัมพันธ์ | พล.อ.กิตติ รัตนฉายา (บิดา)[6] คุณหญิงสุภาภรณ์ รัตนฉายา (มารดา)[1] ฉัตราภรณ์ รัตนฉายา (ภรรยา)[1] |
พลตรี คมกฤช รัตนฉายา หรือ เสธ.แม็กซ์[7] ดำรงตำแหน่งรองแม่ทัพน้อยที่ 4 อดีตผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46,[8] ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี[9] และอดีตผู้บังคับกองกำลังทหารพรานจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กกล.ทพ.จชต.)[10][11]
พล.ต.คมกฤช เป็นบุตรคนที่ 2 ของ พล.อ.กิตติ รัตนฉายา อดีตแม่ทัพภาคที่ 4 กับคุณหญิง สุภาภรณ์ รัตนฉายา สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนสุรศักดิ์มนตรี[12] ก่อนสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหาร รุ่นที่ 26 และโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า รุ่นที่ 37[1]
พ.อ.คมกฤช เป็นผู้เรียกร้องความยุติธรรมให้แก่ทหารพรานที่ถูกกล่าวหา[10][13] รวมทั้งในปี พ.ศ. 2547 คมกฤชเป็นผู้ชี้แจงถึงคดีปืนลั่นปริศนา ที่เขาเชื่อว่าเป็นการลอบยิงจากคนร้ายในพื้นที่สีแดง[6][14]
ในปี พ.ศ. 2561 ได้มีการปรับย้ายให้ พ.อ.คมกฤช ซึ่งดำรงตำแหน่งเสนาธิการมณฑลทหารบกที่ 46 มาเป็นรองผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 46[15][16]
การล้อมเปเล่ดำ | |||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|
ส่วนหนึ่งของ ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย | |||||||
| |||||||
คู่สงคราม | |||||||
• ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศชต.) • ตำรวจภูธรรือเสาะ • หน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส 30 • กรมทหารพรานที่ 41 | อาร์เคเค | ||||||
ผู้บังคับบัญชาและผู้นำ | |||||||
![]() ![]() ![]() ![]() | อับดุลรอฮิง ดาอีซอ (เปเล่ดำ) † | ||||||
กำลัง | |||||||
ตำรวจและทหารกว่า 50 นาย | ไม่ทราบ | ||||||
ความสูญเสีย | |||||||
|
| ||||||
อ้างอิง: [19] |
พล.ต.คมกฤช เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนธิกำลังกับทหารและตำรวจในสถานการณ์ความไม่สงบในชายแดนภาคใต้ของประเทศไทย อาทิ:
วันที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552 พ.อ.คมกฤช เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนธิกำลังจำนวน 70 คน พร้อมอาวุธครบมือ โดยกฎอัยการศึก บุกตรวจค้นบ้านพักไม่มีเลขที่ ณ จังหวัดนราธิวาส กระทั่งมีการปะทะกัน จากเหตุการณ์ดังกล่าว มีผู้เสียชีวิต 4 คน รวบตัวได้ 2 คน และเจ้าหน้าที่บาดเจ็บ 1 คน[20]
ส่วนวันที่ 5 ตุลาคม พ.ศ. 2556 พ.อ.คมกฤช เป็นหนึ่งในผู้ร่วมสนธิกำลังจำนวนกว่า 50 คน เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพักที่ต้องสงสัย ที่อำเภอรือเสาะ จังหวัดนราธิวาส หลังสืบทราบว่ากองกำลังติดอาวุธของหนึ่งในแกนนำอาร์เคเคหลบซ่อนตัวเพื่อเตรียมก่อเหตุ และได้มีการยิงปะทะกัน กระทั่งตำรวจเสียชีวิต 2 นาย ส่วนกองกำลังติดอาวุธอาร์เคเคเสียชีวิต 4 คน (หนึ่งในนั้นคือเปเล่ดำ) และยอมมอบตัว 7 คน[19]
หลังจากสอบสวนผู้ต้องหาที่ยอมมอบตัวทั้ง 7 คน คมกฤช รัตนฉายา ได้ร่วมสนธิกำลังเข้าพิสูจน์ทราบ ณ แหล่งซุกซ่อนอาวุธปืน โดยเจ้าหน้าที่ได้กระจายกำลังและใช้สุนัขดมกลิ่น กระทั่งพบอาวุธปืนและอุปกรณ์ประกอบระเบิดแสวงเครื่อง พร้อมทำการเข้ายึดเพื่อป้องการการก่อเหตุ[17]
และในวันที่ 8 พฤศจิกายน พ.ศ. 2560 พ.อ.คมกฤช เป็นหนึ่งในผู้นำกำลังร่วม 3 ฝ่าย จำนวนกว่า 70 คน เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านร้างที่อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี เนื่องจากได้เบาะแสว่ากลุ่มก่อความไม่สงบได้เข้ามากบดาน และเกิดการยิงปะทะกัน กระทั่งผู้ก่อเหตุถูกวิสามัญฯ 2 ราย[21]
พล.ต.คมกฤช รัตนฉายา พกเครื่องรางจากบุคคลใกล้ชิด ทั้งกะลาตาเดียวที่พี่น้องชาวมุสลิมนำมามอบให้ และครุฑวัดบางนาจากเพื่อนนักธุรกิจ[4]