คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (อังกฤษ: Faculty of Law, Thammasat University) เป็นส่วนราชการไทยระดับคณะวิชา สังกัดมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ในการกำกับดูแลของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม นับได้ว่าเป็นคณะนิติศาสตร์ที่เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายว่าด้วยมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[3][4] โดยมีต้นกำเนิดมาจาก โรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม มีประวัติความเป็นมายาวนานกว่าหนึ่งศตวรรษ และมีบทบาทสำคัญเกี่ยวกับการเมืองการปกครองและวงการนิติศาสตร์ของประเทศไทย

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
Faculty of Law,
Thammasat University
ตราประจำมหาวิทยาลัย
คติพจน์เป็นเลิศ เป็นธรรม ร่วมนำสังคม
สถาปนา27 มิถุนายน พ.ศ. 2477 (90 ปี)[1]
คณบดีรองศาสตราจารย์ ดร. ปกป้อง ศรีสนิท
ที่อยู่
ท่าพระจันทร์
2 ถนนพระจันทร์ แขวงพระบรมมหาราชวัง เขตพระนคร กรุงเทพมหานคร 10200
ศูนย์รังสิต
99 หมู่ 18 ถนนพหลโยธิน ตำบลคลองหนึ่ง อำเภอคลองหลวง จังหวัดปทุมธานี 12120
ศูนย์ลำปาง
248 หมู่ 2 ถนนลำปาง–เชียงใหม่ ตำบลปงยางคก อำเภอห้างฉัตร จังหวัดลำปาง 52190
วารสาร• วารสารนิติศาสตร์[2]
• Thammasat Business Law Journal
• วารสารวิชาการกฎหมายขนส่งและพาณิชยนาวี
• หนังสือรพี[2]
เพลงนิติศาสตร์สามัคคี
สี  สีขาว
มาสคอต
ดู สัญลักษณ์คณะ
เว็บไซต์Law.tu.ac.th

ประวัติ

ตึกโดมและอนุสาวรีย์ผู้ประศาสน์การมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ถือกำเนิดขึ้นจากการจัดตั้งโรงเรียนกฎหมายใน พ.ศ. 2440 โดยพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ เสนาบดีกระทรวงยุติธรรม แต่ครั้งมีพระยศที่พระเจ้าลูกยาเธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ฯ เพื่อให้การศึกษาอบรมด้านนิติศาสตร์โดยเฉพาะซึ่งไม่เคยมีมาก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ถึงแม้ครั้งนั้นมีสถานะเป็นแต่โรงเรียนอันมิใช่ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ กระนั้นก็ได้มีแจ้งความของโรงเรียนเกี่ยวกับกำหนดการสอบไล่ของนักเรียนกฎหมายลงประกาศในราชกิจจานุเบกษาอันเป็นหนังสือพิมพ์ข่าวราชการด้วย สำหรับที่ตั้งของโรงเรียนกฎหมายนั้นได้แก่ห้องเสวยของเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมซึ่งอยู่ถัดจากห้องทรงงาน โดยเสนาบดีกระทรวงยุติธรรมทรงให้การศึกษาด้วยพระองค์เองเมื่อทรงเสร็จสิ้นการเสวยพระกระยาหารกลางวันแล้ว ครั้นมีนักเรียนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ จึงมีการย้ายไปทำการเรียนการสอนยังตึกสัสดีหลังกลาง กระทรวงยุติธรรม

พ.ศ. 2453 พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ทรงพ้นจากตำแหน่งเสนาบดีกระทรวงยุติธรรม หลังจากนั้นโรงเรียนกฎหมายก็ทรุดโทรมตามลำดับ และต้องไปเปิดทำการเรียนการสอนเป็นการชั่วคราวที่วัดมหาธาตุยุวราชรังสฤษฎิ์ ราชวรมหาวิหาร และที่เรือนไม้หลังเล็ก ๆ ระหว่างตึกศาลแพ่งกับตึกเก๋งจีนซึ่งบัดนี้ทำลายลงเสียแล้ว

พ.ศ. 2454 พระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาวชิราวุธ พระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงทรงรับโรงเรียนกฎหมายไว้ในพระบรมราชูปถัมภ์ โดยให้สังกัดกระทรวงยุติธรรม และให้เสนาบดีกระทรวงยุติธรรมมีอำนาจหน้าที่รับผิดชอบโรงเรียนนี้ โดยสถานที่เรียนนั้นย้ายมายังตึกกรมประชาสัมพันธ์เดิมบริเวณเชิงสะพานผ่านพิภพลีลา

พ.ศ. 2475 เมื่อมีการปฏิวัติสยามโดยคณะราษฎร รัฐบาลได้จัดตั้งคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ขึ้นในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย แล้วให้โอนโรงเรียนกฎหมาย กระทรวงยุติธรรม ไปสมทบกับคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ดังกล่าวเมื่อวันที่ 25 เมษายน 2476 ครั้งนั้นจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดให้การเรียนการสอนของโรงเรียนกฎหมาย เป็นแผนกวิชาหนึ่งในคณะดังกล่าว โดยผู้สำเร็จหลักสูตรนิติศาสตร์ได้รับเพียงประกาศนียบัตร หากต้องการเป็นเนติบัณฑิตต้องไปสมัครเป็นสมาชิกของเนติบัณฑิตยสภาอีกชั้นหนึ่ง อนึ่ง ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดตั้งคณะดังกล่าวขึ้นใหม่ โดยแยกออกเป็นคณะรัฐศาสตร์คณะหนึ่ง และคณะนิติศาสตร์อีกคณะหนึ่ง ทั้งนี้ การโอนไปสมทบดังกล่าวเป็นแต่ทางนิตินัย ทว่าโดยพฤตินัยแล้ว ยังคงจัดการเรียนการสอนยังคงอยู่ที่อาคารเดิมของโรงเรียนกฎหมายเชิงสะพานผ่านพิภพลีลาเช่นเดิม[5]

พ.ศ. 2476 สภาผู้แทนราษฎรได้ตราพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง พุทธศักราช 2476 ขึ้นเมื่อวันที่ 17 มีนาคม ปีนั้น และมีผลใช้บังคับเมื่อวันที่ 20 มีนาคม ปีเดียวกัน[4] โดยความสำคัญว่า

มาตรา 4 ให้จัดตั้งมหาวิทยาลัยขึ้นมหาวิทยาลัยหนึ่ง เรียกว่า 'มหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง' มีหน้าที่จัดการศึกษาวิชากฎหมาย วิชาการเมือง วิชาเศรษฐการ และบรรดาวิชาอื่น ๆ อันเกี่ยวกับธรรมศาสตร์และการเมืองมาตรา 5 ให้โอนคณะนิติศาสตร์และรัฐศาสตร์ในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ตลอดจนทรัพย์สินและงบประมาณของคณะเหล่านั้น มาขึ้นต่อมหาวิทยาลัยนี้ ก่อนวันที่ 1 เมษายน พุทธศักราช 2477

ตึกคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต

เมื่อแรกสถาปนามหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมืองนั้น ไม่ได้มีการแยกเป็นคณะ ๆ ต่าง ๆ ดังปัจจุบัน หากมีแต่การเรียนการสอนที่เรียกว่า "ธรรมศาสตรบัณฑิต" อักษรย่อว่า "ธ.บ." จัดการเรียนการสอนแต่วิชาตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 4 แห่งพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง พุทธศักราช 2476

พ.ศ. 2492 วันที่ 14 มิถุนายน ปีนั้น ได้มีการแยกหลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิตออกเป็นคณะวิชาสี่คณะ ได้แก่ คณะนิติศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์ คณะเศรษฐศาสตร์ และคณะพาณิชยศาสตร์และการบัญชี การศึกษาระดับปริญญาตรีมีสี่ปี นอกจากนี้ หลักสูตรการเรียนการสอนของคณะนิติศาสตร์ก็ได้รับการปรับปรุงโดยให้เริ่มวิชาภาษาต่างประเทศและเน้นหนักไปในทางปฏิบัติให้เหมาะสมแก่การประกอบ

พ.ศ. 2496 การศึกษาตามหลักสูตรธรรมศาสตรบัณฑิตเดิมได้เลิกไปเป็นการถาวร

พ.ศ. 2512 คณะนิติศาสตร์เริ่มสร้างอาจารย์ประจำคณะ โดยดำเนินการคัดเลือกบุคคลที่มีความรู้ความสามารถเข้ามารับราชการเป็นอาจารย์ประจำ และได้จัดสรรทุนการศึกษาสำหรับส่งอาจารย์ไปศึกษาวิชานิติศาสตร์ในระดับสูงในต่างประเทศ ในระยะเริ่มต้นคณะได้จัดสรรทุนธรรมศาสตร์และทุนจากสมาคมธรรมศาสตร์ให้แก่อาจารย์คณะนิติศาสตร์เพื่อไปศึกษาต่อในระดับปริญญาโทและปริญญาเอกโดยมีวัตถุประสงค์ให้กลับมารับราชการเป็นอาจารย์ประจำที่คณะนิติศาสตร์ ซึ่งในระยะตั้งแต่ พ.ศ. 2522 เป็นต้นมา คณะก็ได้รับทุนการศึกษาจากแหล่งต่าง ๆ หลายแห่ง เช่น ทุน ก.พ. ทุนโอเซี่ยนนิคและสุวรรณมาศ ทุนรัฐบาลฝรั่งเศส ทุนอานันทมหิดล สาขาธรรมศาสตร์ เป็นต้น

พ.ศ. 2514 มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ได้ปรับปรุงหลักสูตรการเรียนการสอนอีกครั้ง โดยนำระบบหน่วยกิตและการวัดผลแบบใหม่เข้ามาใช้ในมหาวิทยาลัย ยังผลให้หลักสูตรทั้งปวงของคณะนิติศาสตร์ก็ได้รับการปรับปรุงให้สอดคล้องกับระบบของมหาวิทยาลัย เว้นแต่วิธีการวัดผลการศึกษาซึ่งยังใช้ระบบคะแนนดังเดิม โดยถือเป็นเพียงคณะเดียวในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ใช้ระบบคะแนนเฉลี่ย ไม่ใช่ระบบเกรดเฉลี่ย

อาคารคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต (ซ้าย)

พ.ศ. 2515 คณะนิติศาสตร์ได้เปิดหลักสูตรนิติศาสตร์สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาชั้นปริญญาตรีจากสาขาอื่นมาแล้ว เรียกว่า "หลักสูตรชั้นปริญญาตรีคณะนิติศาสตร์ ภาคบัณฑิต" โดยเข้าศึกษาเฉพาะวิชาบังคับ ตามหลักสูตรชั้นปริญญาตรีชั้นปีที่สอง ปีที่สาม และปีที่สี่ ของคณะนิติศาสตร์ ผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรนี้มีศักดิ์และสิทธิเป็น "นิติศาสตรบัณฑิต" แห่งมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์เสมอกันกับผู้สำเร็จหลักสูตรปรกติ

พ.ศ. 2549 ผลจากมติสภามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คณะนิติศาสตร์ ได้ทำการย้ายการเรียนการสอนหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ภาคปกติ ทั้งหมดมาทำการเรียนการสอน ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์รังสิต โดยนักศึกษา รหัส 4901XXXXXX ถือเป็นรหัสแรกที่ต้องศึกษา ณ ศูนย์รังสิต ตลอดหลักสูตรการศึกษา เว้นแต่ภาคฤดูร้อนที่ต้องกลับไปศึกษา ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์

พ.ศ. 2552 คณะนิติศาสตร์ ได้เปิดหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ภาคปกติ ขึ้น ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง เป็นรุ่นแรก ตามนโยบายการกระจายการศึกษาวิชานิติศาสตร์สู่ท้องถิ่น ในเบื้องต้นเปิดรับนักศึกษาจากผู้สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวนทั้งสิ้น 200 คน โดยรับด้วยวิธีมหาวิทยาลัยคัดเลือกตรง (สอบตรง) จากผู้มีภูมิลำเนาอยู่ในภาคเหนือ จำนวน 150 คน และผ่านระบบรับบุคคลเข้าศึกษาในสถาบันอุดมศึกษาจากทั่วประเทศอีก 50 คน และในปีเดียวกันนี้ได้ปิดหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ภาคบัณฑิต ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปางลงด้วย[6]

พ.ศ. 2556 คณะนิติศาสตร์ ได้เปิดหลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ ภาคภาษาอังกฤษ ณ ศูนย์ท่าพระจันทร์ โดยเป็นสถาบันการศึกษานิติศาสตร์แห่งแรกในประเทศไทยที่เปิดดำเนินการเรียนการสอนภาคภาษาอังกฤษเต็มรูปแบบในระดับชั้นปริญญาตรี

ปัจจุบัน คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ คงเปิดดำเนินการและมีพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง นับว่าเป็นคณะในสถาบันอุดมศึกษาที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานเป็นอันดับที่สองของประเทศไทย รองจากคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล[7][8][9][10]

การบริหาร

ทำเนียบคณบดี

หมายเหตุ คำนำหน้านามของผู้ดำรงตำแหน่งคณบดีและผู้รักษาการแทนคณบดีเป็นคำนำหน้านามตามตำแหน่งทางวิชาการในขณะรับตำแหน่ง

ศูนย์กฎหมาย

เพื่อประโยชน์ของการศึกษาวิชานิติศาสตร์ และการให้บริการงานวิจัยแก่ภาครัฐ และสังคม คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จึงบริหารงานทางวิชาการในลักษณะของศูนย์วิชานิติศาสตร์ โดยประกอบด้วยศูนย์กฎหมาย ดังต่อไปนี้

ทำเนียบคณบดีคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์[11]
ชื่อ ระยะเวลาดำรงตำแหน่ง

1. ศาสตราจารย์ พระยานิติศาสตรไพศาล (วัน จามรมาน) เก็บถาวร 2020-08-09 ที่ เวย์แบ็กแมชชีนพ.ศ. 2492 – พ.ศ. 2496
2. ศาสตราจารย์ พระยาลัดพลีธรรมประคัลภ์ (วงศ์ ลัดพลี)พ.ศ. 2496 – พ.ศ. 2503
3. ศาสตราจารย์ พระยาอรรถการีย์นิพนธ์ (สิทธิ จุณณานนท์)พ.ศ. 2503 – พ.ศ. 2511
4. ศาสตราจารย์สัญญา ธรรมศักดิ์พ.ศ. 2511 – พ.ศ. 2514
5. ศาสตราจารย์จิตติ ติงศภัทิย์พ.ศ. 2514 – พ.ศ. 2517
0. ผู้รักษาการแทนคณบดีพ.ศ. 2517 – พ.ศ. 2518
6. ศาสตราจารย์ ดร.ปรีดี เกษมทรัพย์พ.ศ. 2518 – พ.ศ. 2519
0. ผู้รักษาการแทนคณบดีพ.ศ. 2519 – พ.ศ. 2521
7. ศาสตราจารย์ ดร.มานะ พิทยาภรณ์พ.ศ. 2521 – พ.ศ. 2522
8. ศาสตราจารย์ ดร.ไพศิษฐ์ พิพัฒนกุลพ.ศ. 2522 – พ.ศ. 2525
9. รองศาสตราจารย์ ดร.เกียรติขจร วัจนะสวัสดิ์พ.ศ. 2525 – พ.ศ. 2527
10. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.ปรีชา สุวรรณทัตพ.ศ. 2527 – พ.ศ. 2529
11. อาจารย์พนัส ทัศนียานนท์พ.ศ. 2529 – พ.ศ. 2531
12. รองศาสตราจารย์ ดร.ประธาน วัฒนวาณิชย์พ.ศ. 2531 – พ.ศ. 2534
13. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สมยศ เชื้อไทยพ.ศ. 2534 – พ.ศ. 2540
14. รองศาสตราจารย์สุธีร์ ศุภนิตยพ.ศ. 2540 – พ.ศ. 2541
15. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.พนม เอี่ยมประยูรพ.ศ. 2541 – พ.ศ. 2544
16. ศาสตราจารย์ ดร.สุรพล นิติไกรพจน์พ.ศ. 2544 – พ.ศ. 2547
17. รองศาสตราจารย์ ดร.กำชัย จงจักรพันธ์พ.ศ. 2547 – พ.ศ. 2550
18. ศาสตราจารย์ ดร.สมคิด เลิศไพฑูรย์พ.ศ. 2550 – พ.ศ. 2553
19. ศาสตราจารย์ ดร.สุรศักดิ์ ลิขสิทธิ์วัฒนกุลพ.ศ. 2553 – พ.ศ. 2556
20. รองศาสตราจารย์ณรงค์ ใจหาญพ.ศ. 2556 – พ.ศ. 2559
21. ศาสตราจารย์ ดร.อุดม รัฐอมฤตพ.ศ. 2559 – พ.ศ. 2562
22. รองศาสตราจารย์ ดร.มุนินทร์ พงศาปานพ.ศ. 2562 – พ.ศ. 2565
23. รองศาสตราจารย์ ดร.ปกป้อง ศรีสนิทพ.ศ. 2565 – ปัจจุบัน


ศูนย์หรือสถาบันศึกษากฎหมายเฉพาะทาง

คณะนิติศาสตร์ ได้จัดให้มีศูนย์ศึกษากฎหมายเฉพาะทางหรือสถาบันศึกษากฎหมายเฉพาะทาง ดังนี้

หน่วยงานอื่น

นอกจากหน่วยงานที่ตอบสนองภารกิจพื้นฐานของคณะนิติศาสตร์แล้ว ยังมีหน่วยงานอื่นเพื่อสนองการดำเนินงานตามนโยบาย ดังนี้

  • ศูนย์นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • มูลนิธินิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มนธ.)
  • สมาคมนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (สนธ.)
  • ศูนย์วิจัยและให้คำปรึกษา
  • ศูนย์จัดการศึกษาและฝึกอบรมด้านกฎหมาย (LeTEC)

สัญลักษณ์

  • ตรา – ตรามหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นตราธรรมจักร มีรัฐธรรมนูญใส่พานอยู่ตรงกลาง ตามประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดภาพเครื่องหมายราชการตามพระราชบัญญัติเครื่องหมายราชการ พุทธศักราช 2482 (ฉบับที่ 50) ลงวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2509[12]
  • ธง – ธงประจำคณะนิติศาสตร์ใช้ธงสีเดียวกันกับธงมหาวิทยาลัย คือ ธงสีเหลือง แต่เพิ่มคำว่า "คณะนิติศาสตร์" เข้าไปในธรรมจักร
  • สีสีขาวเป็นสีประจำคณะนิติศาสตร์ เป็นสัญลักษณ์ถึงความสะอาดบริสุทธิ์และอวมลทิน ทั้งนี้ ชุดครุยคณะนิติศาสตร๋ใช้แถบสีขาวเป็นแถบครุย
  • สัญลักษณ์ – ตราชูหรือดุลพ่าห์เป็นสัญลักษณ์อย่างไม่เป็นทางการของคณะนิติศาสตร์ หมายถึง เครื่องนำพาไปซึ่งความเที่ยงตรง
  • สัตว์สัญลักษณ์เสือเหลืองเป็นสัตว์สัญลักษณ์ของคณะ แสดงถึงความสง่างาม การรักษาเกียรติยศ หลงใหลในความยุติธรรม รักสันโดษ พลังอำนาจ ความน่าเกรงขาม และความเป็นผู้นำ นอกจากนี้ยังเชื่อกันว่า เสือเป็นผู้คานอำนาจการปกครองกับสิงห์ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของคณะรัฐศาสตร์ การใช้สัตว์ทั้งสองเป็นสัญลักษณ์นี้มีที่มาจากการแข่งขันกีฬาของทั้งสองคณะที่เรียก "กีฬาประเพณีเสือเหลือง-สิงห์แดง"

การเรียนการสอน

หลักสูตร

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ประกอบด้วยการเรียนการสอนตามหลักสูตรดังต่อไปนี้[15]

การอบรม

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เปิดให้มีการอบรมความรู้ด้านกฎหมายเฉพาะด้านหลายโครงการแก่บุคคลทั่วไปหรือผู้สนใจ ซึ่งประกอบไปด้วย

  • โครงการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชน
  • โครงการอบรมกฎหมายเกี่ยวกับการบริหารงานบุคคล
  • โครงการอบรมภาษาอังกฤษสำหรับนักกฎหมาย
  • โครงการอบรมประกาศนียบัตรกฎหมายธุรกิจสำหรับบุคคลทั่วไป
  • โครงการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายการค้าระหว่างประเทศ

การฝึกอบรมเฉพาะทาง

นอกจากโครงการอบรมที่จัดขึ้นเพื่ออบรมบุคคลภายนอกเป็นการทั่วไปแล้ว คณะนิติศาสตร์ยังจัดโครงการอบรมให้กับหน่วยงานภายนอกเป็นการเฉพาะ ดังนี้

  • โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการพัฒนานักกฎหมายกรุงเทพมหานคร ร่วมกับกรุงเทพมหานคร
  • โครงการฝึกอบรมนักบริหารระดับต้น โดยกรมธนารักษ์
  • โครงการอบรมหลักสูตรประกาศนียบัตรกฎหมายมหาชนให้แก่ข้อราชการสำนักงาน ก.พ.
  • โครงการจ้างดำเนินการทดสอบเพื่อวัดความรู้เฉพาะตำแหน่งในการคัดเลือกเพื่อรับโอนข้าราชการตามกฎหมายอื่นมาบรรจุเป็นข้าราชการสำนักงาน ป.ป.ช.
  • โครงการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ Tobacco Control Law โดยกรมควบคุมโรค
  • โครงการอบรมหลักสูตรกฎหมายให้กับบุคลากรของ กฟผ.
  • โครงการอบรมหลักสูตร Capacity Development Programme in Corporate Law ร่วมกับมหาวิทยาลัยกลาสโกว
  • โครงการฝึกอบรมหลักสูตรการเสริมสร้างความรู้ด้านระบบงานนิติบัญญัติให้แก่สำนักงานเลขาวุฒิสภา
  • โครงการอบรมหลักสูตรกฎหมายมหาชนสำหรับพนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน
  • โครงการอบรมหลักสูตรกฎหมายมหาชนให้กับพนักงานสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.)
  • โครงการอบรมหลักสูตรความรู้กฎหมายเกี่ยวกับบริษัทมหาชน จำกัด และการควบรวมกิจการ: เพื่อการส่งเสริมและกำกับดูแลบริษัทประกันภัย โดย คปภ.
  • โครงการฝึกอบรมหลักสูตรกฎหมายมหาชนสำหรับพนักงาน สำนักงานคณะกรรมการกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กทช.)
  • โครงการอบรมกฎหมายให้กับคณาจารย์จากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ปริญญาตรี

นิติศาสตรบัณฑิต (น.บ.) สาขาวิชานิติศาสตร์ (Bachelor of Laws Programme : LL.B)[16]

ทั้งนี้ หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต ได้เปิดบรรยายดังต่อไปนี้ [17]

  • ภาคปกติ หลักสูตร 4 ปี (สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) โดยจัดการศึกษา ณ ศูนย์รังสิต และศูนย์ลำปางในแต่ละปีการศึกษาจะคัดเลือกนักศึกษาผ่านโครงการต่าง ๆ เช่น
    • โครงการคัดเลือกผ่านระบบกลางการรับนักศึกษา (Admission)
    • โครงการส่งเสริมการศึกษาวิชานิติศาสตร์ (คณะนิติศาสตร์จัดสอบคัดเลือกเอง)
    • โครงการขยายโอกาสทางการศึกษา
      • โครงการนักศึกษาเรียนดีจากชนบทและเขตเมือง
      • โครงการผู้มีความสามารถดีเด่นด้านการกีฬา
      • โครงการนักศึกษาเรียนดีแต่ขาดโอกาส
      • โครงการนักศึกษาชาวไทยภูเขา
      • โครงการคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์โอลิมปิก
      • โครงการมหาดไทย
      • โครงการส่งเสริมโอกาสทางการศึกษาสำหรับนักศึกษาผู้พิการทางสายตา
      • โครงการรับนักเรียนพลเมืองจิตอาสาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

โดยคณะนิติศาสตร์ได้จัดให้มีการศึกษาเฉพาะทางสำหรับนักศึกษาผู้สนใจ นักศึกษาอาจเลือกศึกษาวิชาบังคับเลือกและวิชาเลือกของคณะนิติศาสตร์ เพื่อขอรับประกาศนียบัตรสาขาความเชี่ยวชาญทางกฎหมายเฉพาะทางใดสาขาหนึ่งตามข้อกำหนด ซึ่งจัดให้มีการศึกษาความรู้เฉพาะด้านใน 6 สาขาด้วยกัน คือ

  • ภาคภาษาอังกฤษ หลักสูตร 4 ปี คือ หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต สาขากฎหมายธุรกิจ ภาคภาษาอังกฤษ (สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย) โดยจัดการศึกษา ณ ศูนย์ท่าพระจันทร์
  • ภาคบัณฑิต หลักสูตร 3 ปี คือ หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต (สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสาขาใดก็ได้ ยกเว้นสาขานิติศาสตร์)
    • โครงการนิติศาสตร์ภาคบัณฑิต ณ ศูนย์ท่าพระจันทร์

ประกาศนียบัตรบัณฑิต

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้จัดให้มีการเรียนการสอนหลักสูตรประกาศนียบัตรสำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษาระดับนิติศาสตรบัณฑิต โดยมิได้เป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรในระดับปริญญาโท หากแต่เป็นโครงการที่มีลักษณะเฉพาะที่สมบูรณ์ในตัวเอง การศึกษาตามโครงการนี้จะเน้นให้ศึกษาได้มีความรู้ ทั้งทางด้านกฎหมาย และแนวทางปฏิบัติที่เป็นอยู่โดยจะศึกษาทั้งทางด้านทฤษฎีควบคู่กับการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นแต่ละเรื่องในทางปฏิบัติ ซึ่งประกอบด้วย

  • ประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายมหาชน (Graduate Diploma Programme in Public Law)
  • ประกาศนียบัตรบัณฑิตทางกฎหมายธุรกิจ (Graduate Diploma Programme in Business Law)

ปริญญาโท

นิติศาสตรมหาบัณฑิต (น.ม.) (Master of Laws Programme : LL.M)[18]คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นสถาบันแรกในประเทศไทยที่เปิดสอนหลักสูตรปริญญาโทโดยเกิดขึ้นพร้อมกับการจัดตั้งมหาวิทยาลัยวิชาธรรมศาสตร์และการเมือง เมื่อ พ.ศ. 2477 และได้ปรับปรุงหลักสูตรนี้โดยตลอด การปรับปรุงครั้งล่าสุดมีขึ้นในปี พ.ศ. 2553 โดยประกอบไปด้วยสาขาวิชาดังต่อไปนี้

  • หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต หลักสูตร 2 ปี ไม่เกิน 4 ปี (สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต) เปิดรับสมัคร 8 สาขา ดังนี้
  • หลักสูตรนิติศาสตรมหาบัณฑิต ภาคภาษาอังกฤษ สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต ดังนี้
    • Master of Laws Program in Business Laws (English Programme)
  • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิต (Master of Arts Programme : M.A.) สำหรับผู้ที่สำเร็จการศึกษานิติศาสตรบัณฑิต หรือปริญญาบัณฑิตอื่น ดังนี้
    • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิตด้านกฎหมายมหาชน (Public Law)
    • หลักสูตรศิลปศาสตรมหาบัณฑิตสาขานิติเศรษฐศาสตร์การค้าระหว่างประเทศ

ปริญญาเอก

หลักสูตรปริญญาเอกคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้เปิดดำเนินการเรียนการสอนเป็นสถาบันแรกของประเทศไทย และได้จัดการเรียนการสอนตลอดมา โดยผู้สมัครเป็นผู้เสนอหัวข้อให้บัณฑิตศึกษา คณะนิติศาสตร์ เป็นผู้พิจารณาวิทยานิพนธ์ เป็นต้น โดยประกอบไปด้วยหลักสูตรดุษฎีบัณฑิต จำนวน 2 หลักสูตร ดังนี้

  • นิติศาสตรดุษฎีบัณฑิต (น.ด.) (Doctor of Laws Programme : LL.D.)
  • ปรัชญาดุษฎีบัณฑิต (ปร.ด.) สาขาวิชาการบริหารกระบวนการยุติธรรม (Doctor of Philosophy  Program in Justice Administration : Ph.D.)

กิจการนักศึกษา

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดระบบกิจกรรมนักศึกษา โดยให้นักศึกษามีอิสระในการดำเนินกิจกรรม ซึ่งมีคณะกรรมการนักศึกษาคณะนิติศาสตร์เป็นผู้ดำเนินกิจกรรมหลัก ทั้งนี้ ยังประกอบด้วยกลุ่มกิจกรรมอื่น ๆ ภายในคณะอีกด้วยที่มีคณะกรรมการนักศึกษาฯ เป็นผู้ประสานงาน

เครือข่ายนักศึกษา

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นภาคีสมาชิกองค์การต่อไปนี้

  • Asian Law Students Association (ALSA)
  • องค์การนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • สมัชชาประชาคมนักศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์

กิจกรรมประจำ

กิจกรรมหลักในแต่ละปีการศึกษาประกอบด้วยกิจกรรมดังต่อไปนี้เป็นต้น

  • วันแรกพบ และรับเพื่อนใหม่คณะนิติศาสตร์
  • Nitiday โดยเป็นกิจกรรมสำหรับสานความสัมพันธ์ภายในคณะสำหรับนักศึกษาทุกชั้นปี
  • ไหว้ครูนิติศาสตร์ โดยเป็นการแสดงกตเวทิตาคุณและทำบุญอุทิศแด่บูรพคณาจารย์นิติศาสตร์
  • นิติสัมพันธ์ โดยเป็นกิจกรรมสานความสัมพันธ์กับ คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
  • นิติสัมพันธ์ (รังสิต–ลำปาง) โดยเป็นกิจกรรมสานความสัมพันธ์กับ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง
  • นิติวังหน้า–ศิริราชวังหลัง โดยเป็นกิจกรรมสานความสัมพันธ์กับ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล
  • Shaking Law กิจกรรมตอบแทนเพื่อนเก่าผู้มาก่อน โดยเพื่อนใหม่ที่มาทีหลัง
  • งานประกวดโต๊ะกลุ่ม และดาวเดือน
  • งานประกวดร้องเพลงมหาวิทยาลัยภายในคณะ
  • ละคอนเวทีคณะนิติศาสตร์
  • วันรพี

และยังประกอบด้วยกิจกรรมอื่น ๆ ที่ดำเนินการโดยนักศึกษาคณะนิติศาสตร์ เป็นต้นว่า

  • สันทนาการคณะนิติศาสตร์
  • ชุมนุมขับร้องประสานเสียงคณะนิติศาสตร์ (Juris Chorus)
  • โครงการค่ายเปิดประตูสู่นิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (Pre–Camp)
  • โครงการเผยแพร่วิชานิติศาสตร์ (คพน.)
  • กลุ่มศึกษากฎหมายภาคปฏิบัติ (กศป.)
  • วารสารนิติศาสตร์
  • Law Students Club
  • ศาลจำลอง (Moot Court)
  • ค่ายเทียน ณ สวนโมกขพลาราม จังหวัดสุราษฎร์ธานี
  • ค่ายอาสาพัฒนาชนบท คณะนิติศาสตร์ ซึ่งในหนึ่งปีจะมีอย่างน้อย 3 ค่าย โดย 3 กลุ่มกิจกรรม
  • กลุ่มนักร้องประสานเสียงคณะนิติศาสตร์
  • TILSA (Thammasat International Legal Scholars Association)
  • หนังสือพิมพ์ฎีกา
  • สโมสรฟุตบอลคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
  • กลุ่มเฟมินิสต์แห่งคณะนิติศาสตร์ (Thammasat Law School Feminist Club)

กิจกรรมเด่น

ลานสัญญา ธรรมศักดิ์ สถานที่ประกอบพิธีสำคัญของคณะ

วันรพี

คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จัดกิจกรรมเนื่องในวันรพีเป็นประจำในวันที่ 7 สิงหาคมของทุกปี ภายในงานประกอบด้วยกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การแข่งขันตอบปัญหากฎหมายระดับอุดมศึกษาชิงถ้วยรางวัลพระราชทานสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร และระดับมัธยมศึกษาชิงถ้วยรางวัลประทานพระเจ้าหลานเธอ พระองค์เจ้าพัชรกิติยาภา การแสดงศาลจำลอง การเสวนาวิชาการ การแนะแนวการศึกษา ลานน้ำชาปัญญาชน ห้องประวัติศาสตร์เดือนตุลา การจัดแสดงนิทรรศการวิชาการ และการจัดขบวนเชิญพวงมาลาไปถวายสักการะพระรูปพระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้ารพีพัฒนศักดิ์ กรมหลวงราชบุรีดิเรกฤทธิ์ ณ ลานพระรูปหน้าศาลยุติธรรม

นอกจากนี้ ในแต่ละปียังมีการคัดเลือกนักศึกษาจำนวนแปดคน เป็นชายสี่คน และหญิงสี่คน ซึ่งได้รับการคัดเลือกจากนักศึกษาด้วยกันเองให้เป็น "ทูตกิจกรรมงานวันรพี" หรือที่นิยมเรียกว่า "ทูตรพี" อีกด้วย ทูตกิจกรรมงานวันรพีนั้นมีหน้าที่ประชาสัมพันธ์กิจกรรมทั้งปวงและมีหน้าที่เชิญพวงมาลาไปวางหน้าพระรูปพร้อมกับผู้บริหารของมหาวิทยาลัยตามกำหนดการ

งานวันรพีของคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ มักได้รับความสนใจจากสื่อมวลชน เนื่องจากมีการเสวนาทางวิชาการเกี่ยวกับสถานการณ์ทางการเมืองของประเทศ และผู้ร่วมเสวนามักเป็นผู้ทรงคุณวุฒิและผู้มีชื่อเสียงในสังคม[19][20]

โต๊ะ

โต๊ะ หมายถึง นักศึกษาที่ได้รับการจัดเป็นกลุ่ม ซึ่งมีธรรมเนียมว่า นักศึกษาคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ชั้นปีหนึ่ง ให้เลือกโต๊ะของตนด้วยการจับสลากในวันรับเพื่อนใหม่นิติศาสตร์ ธรรมเนียมนี้ริเริ่มอย่างเป็นรูปเป็นร่างเมื่อประมาณ พ.ศ. 2525 ปัจจุบัน มีโต๊ะทั้งสิ้นยี่สิบห้าโต๊ะ ดังนี้[21]

พ.ศ. 2553 คณะอนุกรรมการนักศึกษา คณะนิติศาสตร์ ศูนย์ลำปาง จัดให้มีโต๊ะขึ้น ณ คณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ศูนย์ลำปาง ทั้งสิ้นสิบสองโต๊ะ[22] ดังนี้

ระบบการจัดการและธรรมเนียมเฉพาะของแต่ละโต๊ะมีความแตกต่างกันไป ทั้งนี้ วัตถุประสงค์ที่มีการจัดโต๊ะเพื่อให้สมาชิกโต๊ะดูแลช่วยเหลือกันตามอัธยาศัย ส่วนนักศึกษาที่เป็นสมาชิกโต๊ะรุ่นก่อนหน้าก็จะให้ความช่วยเหลือต่าง ๆ แก่รุ่นน้อง โดยอาจจัดให้มีรุ่นพี่ดูแลรุ่นน้องเป็นราย ๆ ไป และไม่ใช้ระบบรหัสนักศึกษา ซึ่งสมาชิกภาพของสมาชิกโต๊ะนั้นสิ้นสุดลงเมื่อสมาชิกผู้นั้นแสดงเจตนาขอถอนตัวต่อกลุ่มโต๊ะ หรืออาจสิ้นสุดลงเมื่อขาดการติดต่อกับโต๊ะโดยสิ้นเชิง

ศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียง

  • ถนอม ส่งเสริม, ดร. : สมาชิกวุฒิสภา
  • ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์ : กรรมการธนาคารกรุงเทพ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองข้อมูลเครดิต
  • ธะนิต พิศาลบุตร : กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพพาณิชย์การ จำกัด
  • ธานินทร์ กรัยวิเชียร, ศาสตราจารย์ : ศิษย์เก่าธรรมศาสตรบัณฑิต, อาจารย์ประจำคณะนิติศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์, ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลฎีกา, นายกรัฐมนตรี, องคมนตรี


อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

14°04′32″N 100°37′02″E / 14.07559°N 100.61722°E / 14.07559; 100.61722


🔥 Top keywords: พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลหน้าหลักพระสุนทรโวหาร (ภู่)องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024สไปร์ท (แร็ปเปอร์)ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พุ่มพวง ดวงจันทร์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อีดิลอัฎฮาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวราชวงศ์จักรีลำดับโปเจียมแห่งราชอาณาจักรไทยรายชื่อตัวละครในพระอภัยมณีหม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคลทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระอภัยมณีหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคลหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลานม่าอริยสัจ 4ตารางธาตุนิราศภูเขาทองรายชื่อเครื่องดนตรีเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคประเทศไทยอาณาจักรอยุธยาปิติ ภิรมย์ภักดีวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย