กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38

กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 หรือ จามจุรีเกมส์ 38 เป็นการแข่งขันกีฬาระหว่างเหล่านิสิตนักศึกษาระดับอุดมศึกษาในประเทศไทย จัดขึ้น ณ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ระหว่างวันที่ 15 - 24 มกราคม พ.ศ. 2554 โดยใช้สถานที่ทำการแข่งขันทั้งภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และศูนย์กีฬาภายนอก มีสถาบันการศึกษาเข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 117[1] สถาบันใน 25 ชนิดกีฬา การแข่งขันครั้งนี้นับเป็นครั้งที่สี่ที่จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน และเป็นเจ้าภาพครั้งแรกนับแต่ พ.ศ. 2537 (จามจุรีเกมส์ 21)

กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38
เมืองเจ้าภาพจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
คำขวัญชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ คือ น้ำใจนักกีฬา
(SPORTSMANSHIP IS THE GREATEST VICTORY)
ทีมเข้าร่วม117 มหาวิทยาลัย
กีฬา25 ชนิดกีฬา
พิธีเปิด15 มกราคม 2554 (2554-01-15)
พิธีปิด24 มกราคม 2554 (2554-01-24)
ประธานพิธีเปิดสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี
นักกีฬาปฏิญาณรดมยศ มาตเจือ
ผู้ตัดสินปฏิญาณวิจิตร เกตุแก้ว
ผู้จุดคบเพลิงปานวาด จิตไพโรจน์
สนามกีฬาหลักสนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การแข่งขันฯ ใช้สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นสนามหลักในการจัดพิธีเปิด - ปิด ตลอดจนการทำการแข่งขันกรีฑาประเภทลู่และลาน ในส่วนกีฬาในร่ม จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดสร้างอาคารศูนย์กีฬาและนันทนาการขึ้นใหม่ เพื่อรองรับการแข่งขันดังกล่าว นอกจากนี้ยังมีการใช้สนามกีฬาอื่นๆ ในบริเวณกรุงเทพมหานคร ตลอดจนจังหวัดนครนายกสำหรับการแข่งขันกอล์ฟ โดยมีการจัดการบริการขนส่งนักกีฬาระหว่างสนาม

งานการประชาสัมพันธ์การแข่งขัน ได้จัดทำผ่านโปสเตอร์และสื่อมวลชนหลายแขนง นอกจากนี้ยังเปิดโอกาสให้นิสิตของมหาวิทยาลัยมีส่วนร่วมโดยการจัดประกวดสัญลักษณ์ โปสเตอร์ สัญลักษณ์นำโชค และเพลงประจำการแข่งขัน โดยสัญลักษณ์เป็นรูปดอกจามจุรี 3 ดอกเรียงในแนวตั้งมีลักษณะคล้ายกับพระเกี้ยวและสามารถอ่านได้เป็นตัวเลข 38 ส่วนคำขวัญประจำการแข่งขันในครั้งนี้ คือ "ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ คือ น้ำใจนักกีฬา" และสัญลักษณ์นำโชค ได้แก่ กระรอก 2 ตัว คือ น้องน้ำใจและน้องไมตรี

ผลการแข่งขันปรากฏว่า จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยครองตำแหน่งเจ้าเหรียญทองในการแข่งขันครั้งนี้ เป็นสมัยที่ 3 ติดต่อกัน[2] และมหาวิทยาลัยสยามได้รับถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลชนะเลิศเหรียญรวม (ชาย) เหรียญรวม (หญิง) สำหรับกรีฑาอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยไปด้วย

การพัฒนาและเตรียมการ

การเสนอตัวเป็นเจ้าภาพ

เนื่องจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยมีความพร้อมด้านบุคลากรที่มีประสบการณ์ในการจัดการแข่งขันกีฬาและได้รับเชิญให้เป็นกรรมการกีฬาระดับชาติและนานาชาติหลายครั้ง และมีความพร้อมในการเป็นเจ้าภาพในด้านต่าง ๆ ทั้งสนามการแข่งขัน ด้านการแพทย์ การคมนาคม การบริการ อาหาร สิ่งอำนวยความสะดวกรอบมหาวิทยาลัย สถานที่พักสำหรับเจ้าหน้าที่และนักกีฬา[3] ดังนั้น คณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย โดยมี รองศาสตราจารย์คิม ไชยแสนสุข อธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ประธานคณะกรรมการบริหารกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยเป็นประธานในที่ประชุม มีมติให้จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 โดยไม่มีมหาวิทยาลัยอื่นเสนอตัวเป็นเจ้าภาพแข่งขัน[4] การรับเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 4 ของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งเคยรับเป็นเจ้าภาพมาก่อนแล้วในกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 2 (พ.ศ. 2518), ครั้งที่ 11 (พ.ศ. 2527) และครั้งที่ 21 (พ.ศ. 2537)

การประชาสัมพันธ์

โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างเป็นทางการ

การประชาสัมพันธ์งานแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 นั้น คณะนิเทศศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ศูนย์สื่อสารนานาชาติแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (CICC) และสำนักงานสารนิเทศ ทั้ง 3 หน่วยงานของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับมอบหมายให้เป็นคณะกรรมการดำเงินงานฝ่ายประชาสัมพันธ์ร่วมกัน

สำหรับการประชาสัมพันธ์จามจุรีเกมส์เพื่อให้เป็นที่รู้จักของประชาชนโดยทั่วไป เริ่มตั้งแต่การแถลงข่าวเปิดตัวกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 โดยได้เชิญสื่อจากทุกสำนักมาในงานเพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์งานไปทั่วประเทศ[5] การประชาสัมพันธ์การแข่งขันในครั้งนี้ประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อหลากหลายรูปแบบทั้งทางโทรทัศน์ หนังสือพิมพ์ เอกสารแผ่นพับ เป็นต้น โดยทางทีมประชาสัมพันธ์ได้เดินทางเข้าพบสื่อมวลชนสำนักต่าง ๆ เพื่อขอความร่วมมือในการประชาสัมพันธ์การแข่งขัน[6][7] และมีการเปิด "ศูนย์ประสานงานสื่อมวลชน" เพื่อการรับรองสื่อมวลชนที่มารายงานข่าวการแข่งขัน[8] รวมทั้ง การส่งโปสเตอร์ไปยังมหาวิทยาลัยต่าง ๆ เพื่อเป็นการประชาสัมพันธ์การแข่งขันในครั้งนี้

สำหรับการประชาสัมพันธ์ภายในมหาวิทยาลัยนั้น ทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้ชวนนิสิตให้มีส่วนร่วมผ่านการประกวดการออกแบบตราสัญลักษณ์ ตัวนำโชค เพลงประจำการแข่งขัน รวมถึงแผ่นปิดประชาสัมพันธ์ (โปสเตอร์) รวมทั้ง การใช้ป้ายประชาสัมพันธ์และป้ายเคาต์ดาวน์เพื่อให้นิสิตตื่นตัวในการเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันในครั้งนี้

นอกจากนี้ ยังประชาสัมพันธ์ผ่านเว็บไซต์ประจำการแข่งขัน, เฟซบุ๊ก และการประชาสัมพันธ์ระหว่างหมู่นิสิตนักศึกษาผ่านกิจกรรมหลากหลายรูปแบบ อาทิ การประกวดผลงานวิชาการมหาวิทยาลัยสร้างเสริมสุขภาพ ผ่านการตีพิมพ์เอกสารวิชาการหรือสิ่งประดิษฐ์[9] และจัดกิจกรรม "ตลาดนัดสร้างเสริมสุขภาพ" เป็นงานออกบูธของนิสิตนักศึกษาเกี่ยวกับการสร้างเสริมสุขภาพ เป็นต้น[10]

ผู้ให้การสนับสนุน

ในการแข่งขันในครั้งนี้ทางเจ้าภาพตั้งงบประมาณไว้ราว 60 ล้านบาท โดยมีผู้ให้การสนับสนุนการแข่งขันในครั้งนี้เป็นอย่างดีจากภาครัฐ เช่น สำนักงานคณะกรรมการอุดมศึกษา สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ และภาคเอกชน ได้แก่ ธนาคารไทยพาณิชย์ บริษัท โรงงานฟุตบอลล์ไทยสปอร์ตติ้งกู๊ดส์ จำกัด เป็นต้น โดยได้รับการสนับสนุนเป็นเงินสดกว่า 35 ล้านบาท[11][12][13]

การคมนาคม

สถานีจอดรถโดยสารภายในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตั้งอยู่บริเวณใจกลางกรุงเทพมหานคร มีการคมนาคมขนส่งมวลชนที่สะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีสยาม และสายสีน้ำเงิน สถานีสามย่าน นอกจากนี้ยังมีระบบขนส่งมวลชนขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (รถประจำทาง) ดังต่อไปนี้[14]

  • ถนนพระราม 1 สายรถประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัย ได้แก่ สาย 11 25 54 73 73ก 79 และ 204
  • ถนนพระราม 4 สายรถประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัย ได้แก่ สาย 21 34 47 50 67 93 และ 141
  • ถนนพญาไท สายรถประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัย ได้แก่ สาย 27 29 36 36 ก 65 และ 501
  • ถนนอังรีดูนังต์ สายรถประจำทางที่ผ่านมหาวิทยาลัย ได้แก่ สาย 16 21 และ 141

การคมนาคมภายในมหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดระบบการเดินรถภายในมหาวิทยาลัยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักกีฬาและผู้เข้าร่วมแข่งขันที่จะรับส่งเข้าสู่พื้นที่แข่งขันกีฬากับสถานีรถและป้ายรถประจำทางต่างๆ นอกจากนี้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยยังได้ปรับปรุงอาคารสถานที่จอดรถอีกหลายแห่งในมหาวิทยาลัยเพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เดินทางมาด้วยรถส่วนบุคคล

ที่พัก

จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดห้องพักบริการนักกีฬาโดยใช้หอพักนิสิตที่มีความจุกว่า 3,500 คน และมีที่พักเอกชน โรงแรมโดยรอบจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่เข้าร่วมโครงการกว่า 40 แห่ง[15] และมีการปรับปรุงอาคารโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อใช้เป็นที่พักซึ่งรวมแล้วมีความจุกว่า 5,000 คน[16] นอกจากนี้ยังมีระบบการจองห้องพักออนไลน์เพื่ออำนวยความสะดวกแก่นักกีฬาและบุคคลที่เกี่ยวข้องอีกด้วย[17]

สัญลักษณ์ประจำการแข่งขัน

ตราสัญลักษณ์และคำขวัญ

กระรอก : ตัวนำโชคในจามจุรีเกมส์

ตราสัญลักษณ์ประจำการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ ออกแบบโดยปิติ ประวิชไพบูลย์ นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ได้รับแรงบันดาลใจมาจากดอกจามจุรีซึ่งเป็นดอกไม้ประจำมหาวิทยาลัย โดยนำแฉกรัศมีของพระเกี้ยวมาเรียงเป็นดอกจามจุรี 3 ดอกในแนวตั้งจากใหญ่ขึ้นไปเล็กมีลักษณะคล้ายกับพระเกี้ยวอันสัญลักษณ์ประจำมหาวิทยาลัย และยังสามารถอ่านได้เป็นตัวเลข 38 อันเป็นครั้งของการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในครั้งนี้ โดยเลือกใช้สีชมพูอันเป็นสีประจำมหาวิทยาลัยไล่เฉดสีจากอ่อนขึ้นไปเข้มสื่อความหมายถึงความรุ่งเรืองของจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยที่พร้อมจะต้อนรับนักกีฬาทุกสถาบันในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัย และดอกจามจุรีทั้ง 3 ยังสื่อถึงการรู้แพ้ รู้ชนะ และรู้อภัย ซึ่งเป็นคุณสมบัติของน้ำใจนักกีฬาด้วย[18] นอกจากนี้ บริเวณปลายดอกบนสุด จะแทรกด้วย สีฟ้า เขียว เหลือง แดง และชมพู โดยมีความหมายรวมกันเป็นคำว่า SPORT ซึ่งมีความหมายดังนี้ Success (ความสำเร็จ) แทนด้วย สีเขียว, Peace (ความสันติ) แทนด้วย สีฟ้า, Original (ความเป็นต้นแบบ) แทนด้วย สีเหลือง, Relationship (ความสัมพันธ์) แทนด้วย สีชมพู และ Teamwork (การทำงานเป็นหมู่คณะ) แทนด้วย สีแดง[19]

สำหรับคำขวัญประจำการแข่งขันในครั้งนี้ คือ ชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ คือ น้ำใจนักกีฬา (SPORTSMANSHIP IS THE GREATEST VICTORY) ผลงานของสโมสรนิสิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย[18]

ตัวนำโชค

สัญลักษณ์นำโชคในการแข่งขันจามจุรีเกมส์ ได้แก่ กระรอก สองตัว ชื่อ น้องน้ำใจ (ตัวเมีย) และน้องไมตรี (ตัวผู้) ออกแบบโดยณัฐกรณ์ ไทยรัตนสุวรรณ นิสิตคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย มีที่มาเนื่องจากกระรอกเป็นสัตว์ที่สามารถพบเห็นทั่วไปในจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และเป็นสัตว์ที่มีความน่ารัก ฉลาดเฉลียว และมีลักษณะของความคล่องแคล่วปราดเปรียว ซึ่งทำให้สามารถสื่อได้ถึงการพัฒนาและเกิดความก้าวหน้าอย่างต่อเนื่อง มีลักษณะของความเป็นนักกีฬาผู้มากด้วยความสามารถ มีความมุ่งมั่น และเต็มไปด้วยน้ำใจของนักกีฬา เปรียบเสมือนตัวแทนของนิสิตนักศึกษาจากทุกสถาบันที่เข้าร่วมในการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยในครั้งนี้[18]

พิธีการ

พิธีเปิด

พิธีเปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 หรือ จามจุรีเกมส์ จัดขึ้นในวันที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2554 ณ สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ในระหว่างนั้น สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีได้เสด็จพระราชดำเนินทรงเป็นประธานในพิธี โดยเริ่มต้นด้วยขบวนพาเหรดของนักกีฬาจาก 117 สถาบันเข้าสู่สนาม ตามด้วยขบวนพาเหรดเชิญธงกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ธงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธงจามจุรีเกมส์เข้าสู่สนาม จากนั้น ศาสตราจารย์ นายแพทย์ภิรมย์ กมลรัตนกุล อธิการบดีจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และประธานคณะกรรมการจัดการแข่งขันกราบบังคมทูลรายงาน

หลังจากองค์ประธานมีพระราชดำรัสเปิดการแข่งขันแล้ว พิธีเชิญธงกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ธงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธงจามจุรีเกมส์ ขึ้นสู่ยอดเสาจึงเริ่มขึ้น ตามมาด้วยพิธีจุดกระถางคบเพลิง ซึ่งเจ้าภาพจัดให้นักกีฬาที่เป็นศิษย์เก่าและศิษย์ปัจจุบันวิ่งคบเพลิงคู่กันเรียงตามยุค จำนวน 18 คน คือ รศ.จันทร์ ผ่องศรี, รศ.นพ.พินิจ ทวีสิน, รศ.มล.ปาณสาร หัสดินทร, ดร.วิชิต แย้มบุญเรือง, ธนากร ศรีชาพันธุ์, นราธร ศรีชาพันธุ์, ลดาวัลย์ มูลศาสตร์สาธร, สมพล คูเกษมกิจ, ศรสวรรค์ (ภู่วิจิตร) มีชัย, ธีรัช โพธิ์พานิช, ร.อ.ดำรงศักดิ์ วงศ์ทิม, สิทธิชัย สุวรประทีป, สัพพัญญู อวิหิงสานนท์, ชนาภา ซ้อนขำ, พิสิษฐ์ พูดฉลาด, ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัย และสุดท้ายปานวาด จิตไพโรจน์ นักกีฬาว่ายน้ำทีมชาติไทย เป็นผู้จุดคบเพลิง[20] หลังจากนั้น จึงเป็นพิธีกล่าวคำปฏิญาณตนของนักกีฬาและผู้ตัดสิน โดยรดมยศ มาตเจือ เป็นตัวแทนนักกีฬากล่าวคำปฏิญาณตนและวิจิตร เกตุแก้วเป็นตัวแทนผู้ตัดสินกล่าวคำปฏิญาณตน[21]

สำหรับการแสดงในพิธีเปิดทางจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยได้จัดเตรียมไว้ 3 ชุด ได้แก่ ขบวนพาเหรด ชุด "การรู้รักสามัคคี" การแสดงชุด "นำสังคมไทยนี้สู่ดุลยภาพและความกลมกลืน" และ การแสดงเฉลิมพระเกียรติชุด "84 พรรษา พระบารมีปกเกล้าชาวประชาร่มเย็น"[22]

พิธีปิด

พิธีปิดจามจุรีเกมส์จัดขึ้นในวันที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2554 ณ สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยโดยมีพลากร สุวรรณรัฐ องคมนตรี เป็นประธาน โดยเริ่มด้วยโหมโรงพิธีปิดการแข่งขันโดยวง CU Band ทำการบรรเลงเพลงเพื่อนำนักกีฬาทั้ง 25 ชนิดกีฬาเข้าสู่สนาม [23][24]

หลังจากประธานในพิธีกล่าวปิดการแข่งขันแล้ว จะมีพิธีดับไฟกระถางคบเพลิง ตามด้วยการเชิญธง ก.ก.ม.ท. ธงจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และธงจามจุรีเกมส์ลงจากยอดเสา และพิธีมอบธง ก.ก.ม.ท. ให้แก่มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ซึ่งเป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 39 หลังจากนั้น ขบวนพาเหรดนักกีฬาเคลื่อนออกจากสนาม และเป็นการแสดงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยซึ่งจัดขึ้น 2 ชุด ได้แก่ การแสดงจากโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย (ฝ่ายประถม) ชุด Hello Thailand, การแสดงจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยชุด Power of Wave เมื่อเสร็จสิ้นการแสดงแล้ว นักกีฬาร่วมกันร้องเพลง สามัคคีชุมนุม นับเป็นการเสร็จสิ้นพิธีปิดการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38[24]

สถาบันที่เข้าร่วมแข่งขัน

สถาบันการศึกษาที่ส่งนักกีฬาเข้าร่วมการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 มีจำนวนทั้งสิ้น 117 สถาบัน มีนักกีฬาและเจ้าหน้าที่เข้าร่วมกว่า 16,149 คน (ถ้านับนักกีฬาตั้งแต่รอบคัดเลือกจะมีจำนวนประมาณ 17,000 คน[25]) คณะกรรมการฝ่ายจัดการแข่งขันกว่า 1,500 คน กรรมการผู้ตัดสินกว่า 800 คน อาสาสมัครกว่า 1,800 คน สื่อมวลชนกว่า 300 คน รวมผู้เข้าร่วมการแข่งขันกว่า 20,549 คน[26] รายชื่อสถาบันที่เข้าร่วมการแข่งขัน มีดังนี้[27]

รายชื่อสถาบันที่เข้าร่วมแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38

สนามแข่งขัน

สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 ได้กำหนดให้ใช้สนามกีฬาทั้งในและนอกมหาวิทยาลัย จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยใช้งบประมาณกว่า 395 ล้านบาทในการก่อสร้างอาคารศูนย์กีฬาและนันทนาการ[28] เพื่อเป็นสนามกีฬาหลักในการแข่งขันกีฬาในร่มและว่ายน้ำ และปรับปรุงภูมิทัศน์ตลอดจนอัฒจรรย์ของสนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเพื่อเป็นสถานที่ใช้ในพิธีเปิดและปิดของการแข่งขัน และยังมีการใช้สถานที่ของมหาวิทยาลัยอีกหลายแห่งเป็นสถานที่แข่งขัน อาทิ ศาลาพระเกี้ยวในการแข่งขันลีลาศ สนามหน้าพระบรมรูปสองรัชกาลในการแข่งขันรักบี้

นอกจากการใช้สนามกีฬาภายในบริเวณมหาวิทยาลัยแล้วนั้น การแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 ยังได้ทำการแข่งขันบริเวณสนามในพื้นที่ของกรุงเทพมหานครอื่นๆ อาทิ สนามนิมิบุตร สนามกีฬาของการกีฬาแห่งประเทศไทย สนามกีฬาโรงเรียนสาธิตจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สนามกีฬาโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา และในพื้นที่จังหวัดนครนายก คือสนามกอล์ฟวอเตอร์มิลล์อีกด้วย[29]

สนามกีฬาหลักในการแข่งขันครั้งนี้คือสนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นสนามกีฬามาตรฐานมีความจุผู้ชมกว่า 25,000 คน มหาวิทยาลัยได้เริ่มดำเนินการปรับปรุงสนามดังกล่าวรองรับการแข่งขันกีฬาครั้งนี้ตั้งแต่วันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2553 สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยสามารถทำการแข่งขันกีฬาในประเภทฟุตบอลและกรีฑาทั้งประเภทลู่และลาน สนามหญ้าเป็นหญ้าสังเคราะห์ระดับมาตรฐานที่สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ (FIFA) รับรองเป็นแห่งแรกในประเทศไทย และลู่วิ่งยางสังเคราะห์ จำนวน 8 ลู่ ซึ่งได้รับรองจากสหพันธ์กรีฑานานาชาติ (IAAF) ในส่วนของการแข่งขันกีฬาในร่มจะดำเนินการแข่งขัน ณ ศูนย์กีฬาและนันทนาการเป็นหลัก นอกจากการปรับปรุงสนามกีฬาของมหาวิทยาลัยเพื่อรองรับการแข่งขันกีฬาดังกล่าว มหาวิทยาลัยยังมีความมุ่งหวังต่อการบริการด้านกีฬาแก่ประชาชนและนิสิตเพิ่มเติมอีกด้วย

ลำดับสนามแข่งขันกีฬาที่แข่ง
1สนามศุภชลาศัยกรีฑา
2สระว่ายน้ำ C.U. Sports Complexว่ายน้ำ
3C.U. Sports Complex ชั้น 4บาสเกตบอล
4สนามเทพหัสดิน, สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, สนามกีฬากองทัพบก, สนามกีฬาศูนย์เยาวชนกรุงเทพมหานคร (ไทย-ญี่ปุ่น), สนามกีฬามหาวิทยาลัยรามคำแหง (หัวหมาก)ฟุตบอล
5สนาม โรงเรียนสาธิตแห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ฝ่ายมัธยม อาคารอเนกประสงค์ ชั้น 4วอลเลย์บอล
6สนามกอล์ฟ วอเตอร์มิลล์กอล์ฟ
7สนามฮอกกี้ การกีฬาแห่งประเทศไทย หัวหมากฮอกกี้
8สนามกีฬาในร่ม สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเซปักตะกร้อ ยูโด
9ศาลาพระเกี้ยวดาบสากล ลีลาศ
10C.U. Sports Complex ชั้น 3เทควันโด คาราเต้โด
11สนามเทนนิส สนามกีฬาจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเทนนิส
12C.U. Sports Complex ชั้น 1เทเบิลเทนนิส
13อาคารนิมิบุตรแบดมินตัน
14เวทีมวยหน้าอาคารนิมิบุตรมวยสากลสมัครเล่น
15สนามยิงปืน การกีฬาแห่งประเทศไทยยิงปืน
16สนามหน้าพระบรมรูปสองรัชกาล และ สนามมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลกรุงเทพรักบี้ฟุตบอล
17สนามวอลเลย์บอลชายหาด จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยวอลเลย์บอลชายหาด
18สนามเปตอง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยเปตอง
19อาคารมหาจักรีสิรินธรครอสเวิร์ด บริดจ์ หมากกระดาน
20สนามตะกร้อลอดห่วง จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยตะกร้อลอดห่วง

การแข่งขัน

ชนิดกีฬา

ตารางการแข่งขัน

 ● พิธีเปิด   การแข่งขันNการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ (N คือจำนวนเหรียญ) ● พิธีปิด
มกราคม 255413
พฤหัส
14
ศุกร์
15
เสาร์
16
อาทิตย์
17
จันทร์
18
อังคาร
19
พุธ
20
พฤหัส
21
ศุกร์
22
เสาร์
รวมจำนวนเหรียญทอง
กรีฑา395107842
ว่ายน้ำ66765737
บาสเกตบอล22
ฟุตบอล112
วอลเล่ย์บอล22
กอล์ฟ44
เซปักตะกร้อ2111
ดาบสากล22222212
เทควันโด744419
เทนนิส257
ปิงปอง2232
แบดมินตัน257
มวยสากลสมัครเล่น88
ยิงปืน6464424
ยูโด3333416
รักบี้ฟุตบอล112
ฮอกกี้22
วอลเล่ย์บอลชายหาย22
เปตอง221229
คาราเต้-โด76417
ลีลาศ448
ครอสเวิร์ด2125
บริดจ์224
หมากกระดาน8816
ตะกร้อลอดห่วง11
รวมเหรียญทอง411233030354133439259
พิธี
มกราคม 255413
พฤหัส
14
ศุกร์
15
เสาร์
16
อาทิตย์
17
จันทร์
18
อังคาร
19
พุธ
20
พฤหัส
21
ศุกร์
22
เสาร์
รวมจำนวนเหรียญทอง


สรุปเหรียญการแข่งขัน

สรุปเหรียญการแข่งขัน[30] ได้แก่

อันดับมหาวิทยาลัย รวม
1จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย513640127
2มหาวิทยาลัยรัตนบัณฑิต195832
3มหาวิทยาลัยรามคำแหง18181349
4สถาบันการพลศึกษา17152860
5มหาวิทยาลัยกรุงเทพ16192762
6มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์15141645
7มหาวิทยาลัยสยาม156829
8มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์14152756
9มหาวิทยาลัยเกษมบัณฑิต1371030
10มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต1361332
11มหาวิทยาลัยศรีปทุม691934
12มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าพระนครเหนือ62412
13มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย5111127
14มหาวิทยาลัยเชียงใหม่4111833
15มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ461020
16มหาวิทยาลัยมหิดล45615
17มหาวิทยาลัยปทุมธานี45110
18มหาวิทยาลัยธุรกิจบัณฑิตย์441220
19มหาวิทยาลัยกรุงเทพธนบุรี35311
20มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ33915
21มหาวิทยาลัยราชภัฏนครปฐม33410
22มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์3216
23มหาวิทยาลัยนเรศวร3148
24มหาวิทยาลัยขอนแก่น19818
25มหาวิทยาลัยรังสิต17513
26มหาวิทยาลัยหาดใหญ่1427
27มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้าธนบุรี1326
28มหาวิทยาลัยราชภัฏอุบลราชธานี12710
สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง12710
30มหาวิทยาลัยราชภัฏสุราษฎร์ธานี1168
31มหาวิทยาลัยเกริก1135
32มหาวิทยาลัยนอร์ทกรุงเทพ1113
33มหาวิทยาลัยอีสาน1102
34มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช1012
35มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา1001
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต1001
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลตะวันออก1001
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลรัตนโกสินทร์1001
วิทยาลัยบัณฑิตเอเชีย1001
40มหาวิทยาลัยราชภัฏนครสวรรค์0404
41มหาวิทยาลัยราชภัฏเทพสตรี0314
42มหาวิทยาลัยศิลปากร0213
43มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม0202
44มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์0156
45มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี0145
46มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี0123
47มหาวิทยาลัยราชภัฏสุรินทร์0112
วิทยาลัยราชพฤกษ์0112
49มหาวิทยาลัยมหาสารคาม0101
มหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร0101
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี0101
มหาวิทยาลัยราชภัฏลำปาง0101
53มหาวิทยาลัยบูรพา0055
54มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีมหานคร0022
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร0022
56มหาวิทยาลัยพายัพ0011
มหาวิทยาลัยทักษิณ0011
มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี0011
มหาวิทยาลัยแม่โจ้0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏกำแพงเพชร0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏจันทรเกษม0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏนครราชสีมา0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่0011
มหาวิทยาลัยราชภัฏอุตรดิตถ์0011
มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน0011
วิทยาลัยนครราชสีมา0011
สถาบันเทคโนโลยีแห่งอโยธยา0011
รวม259259372890

รางวัล

หลังการแข่งขันกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38 เสร็จสิ้นลงแล้ว คณะกรรมการกีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทยได้คัดเลือกและมอบรางวัลนักกีฬาดีเด่นและทีมกีฬาดีเด่น ดังนี้[31][32]

นอกจากนี้ มหาวิทยาลัยสยามได้รับถ้วยพระราชทานของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รางวัลชนะเลิศเหรียญรวม (ชาย) เหรียญรวม (หญิง) กรีฑาอุดมศึกษาแห่งประเทศไทยไปด้วย[33]

อ้างอิง

แหล่งข้อมูลอื่น

ก่อนหน้ากีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 38ถัดไป
กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
ครั้งที่ 37

(มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์)
กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
(15 - 22 มกราคม พ.ศ. 2554)
กีฬามหาวิทยาลัยแห่งประเทศไทย
ครั้งที่ 39

(มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์)
🔥 Top keywords: พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมศึกยุคลหน้าหลักพระสุนทรโวหาร (ภู่)องค์การกระจายเสียงและแพร่ภาพสาธารณะแห่งประเทศไทยพิเศษ:ค้นหาพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัวพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าเฉลิมพลฑิฆัมพรอสมทวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2024สไปร์ท (แร็ปเปอร์)ฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรปฟุตบอลชิงแชมป์แห่งชาติยุโรป 2024พุ่มพวง ดวงจันทร์ดวงใจเทวพรหม (ละครโทรทัศน์)อีดิลอัฎฮาสมเด็จพระเจ้าบรมวงศ์เธอ เจ้าฟ้ายุคลทิฆัมพร กรมหลวงลพบุรีราเมศวร์ดอกเตอร์ไคลแมกซ์ ปุจฉาพาเสียวราชวงศ์จักรีลำดับโปเจียมแห่งราชอาณาจักรไทยรายชื่อตัวละครในพระอภัยมณีหม่อมเจ้านวพรรษ์ ยุคลทุติยจุลจอมเกล้าวิเศษพระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าภาณุพันธุ์ยุคลพระอภัยมณีหม่อมเจ้ามงคลเฉลิม ยุคลหม่อมเจ้าฑิฆัมพร ยุคลพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวพระบาทสมเด็จพระมหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตรหลานม่าอริยสัจ 4ตารางธาตุนิราศภูเขาทองรายชื่อเครื่องดนตรีเฌอมาวีร์ สุวรรณภาณุโชคประเทศไทยอาณาจักรอยุธยาปิติ ภิรมย์ภักดีวอลเลย์บอลวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย