กัณหา เคียงศิริ | |
---|---|
เกิด | 26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454 เมืองนนทบุรี ประเทศสยาม |
เสียชีวิต | 23 มิถุนายน พ.ศ. 2542 (88 ปี) กรุงเทพมหานคร ประเทศไทย |
นามปากกา | ก.สุรางคนางค์ รสมาลิน |
อาชีพ | นักเขียน |
รางวัลสำคัญ | พ.ศ. 2529 - ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ (นวนิยาย) |
คู่สมรส | ปกรณ์ บูรณปกรณ์ เล็ก เคียงศิริ |
บิดามารดา | บิดา: พระสุริยะภักดี (บุญช่วย วรรธนะภัฎ) มารดา: นางสุริยะภักดี (หวั่น) |
กัณหา เคียงศิริ (26 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2454 – 23 มิถุนายน พ.ศ. 2542) นักเขียนหญิงที่มีชื่อเสียงของไทย ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ พ.ศ. 2529[1] มีนามปากกาว่า ก.สุรางคนางค์
กัณหา เคียงศิริ เดิมชื่อ ชื้น วรรธนะภัฎ เขียนในแนวสัจนิยม ยึดถือความสมจริง[2] มีผลงานเขียน 200 เรื่อง คือ นวนิยายเรื่องสั้น 100 เรื่อง นวนิยายเรื่องยาว 45 เรื่อง เรื่องแปล 1 เรื่อง บทละคร 3 เรื่อง บทร้อยกรอง 1 ชิ้น และสารคดีหลายเรื่อง
นอกจากเป็นนักเขียนนวนิยายแล้ว ก.สุรางคนางค์ยังเป็นนักเขียนคอลัมน์และนักไขปัญหา เคยเป็นบรรณาธิการหนังสือพิมพ์"เมืองทอง"รายวัน และผู้อำนวยการ"นารีนารถ"รายสัปดาห์ เจ้าของสำนักพิมพ์รสมาลิน ราชวิถี[3]
ได้รับพระราชทานเครื่องราชอิสริยาภรณ์เบญจมาภรณ์มงกุฎไทย และเบญจมาภรณ์ช้างเผือก เมื่อ พ.ศ. 2495 และ 2497 ตามลำดับ และเคยเป็นกรรมการฝ่ายจรรยามารยาทของสภาวัฒธรรมแห่งชาติ
ก.สุรางคนางค์ เกิด ณ คลองบางกอกใหญ่ ปากคลองนางลำเจียก จังหวัดธนบุรี (ปัจจุบันเป็นเขตหนึ่งของกรุงเทพมหานคร) เป็นบุตรีของขุนตำรวจโทพระสุริยะภักดี (บุญช่วย วรรธนะภัฎ)[4] ข้าราชการในสำนักตำรวจหลวง และนางสุริยะภักดี (หวั่น) เป็นบุตรคนแรกในจำนวน 3 คน น้องชายชื่อชาลี น้องสาวชื่อดารา โดยชื่อ "กัณหา" พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าพระราชทานให้เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม พ.ศ. 2462
ระหว่างอายุ 15–16 ปี เคยเข้าไปอยู่ในวังสวนสุนันทา ก.สุรางคนางค์ได้รับการศึกษาจากโรงเรียนเซนต์ฟรังซิสซาเวียร์คอนแวนต์[5] และสำเร็จระดับมัธยมปีที่ 8 จากโรงเรียนราชินีบน เคยเรียนภาษาอังกฤษกับแหม่ม และเรียนภาษาฝรั่งเศสกับพระเรี่ยมวิรัชพากย์ สำเร็จแล้วเป็นครูโรงเรียนราชินี สอนภาษาไทยประจำชั้น ม. 6 อยู่ 3 ปี และเคยถวายพระอักษรสมเด็จพระเจ้าภคินีเธอ เจ้าฟ้าเพชรรัตนราชสุดา สิริโสภาพัณณวดี
ก.สุรางคนางค์ ชอบการประพันธ์ตั้งแต่อยู่ ม.6 เขียนเรื่องสั้นเรื่องแรก ชื่อ "มาลินี" โดยใช้นามปากกาจากชื่อย่อตามด้วยคำประพันธ์ที่ชอบ เกิดเป็นนามปากกา "ก.สุรางคนางค์" ลงในเดลิเมล์วันจันทร์ นวนิยายเรื่องแรก คือ "กรองกาญจน์"[6] โด่งดังในหมู่นักอ่านด้วยเรื่อง "หญิงคนชั่ว" ในปี พ.ศ. 2480 ช่วงระยะสงครามโลกครั้งที่สอง "บ้านทรายทอง"เป็นที่นิยม จนสร้างเป็นละครและภาพยนตร์ ตามมาด้วย "ดอกฟ้า" และ"โดมผู้จองหอง" จนกระทั่ง ถึง "เขมรินทร์-อินทิรา"
ก.สุรางคนางค์ สมรสกับ ป.บูรณปกรณ์[7] (ปกรณ์ บูรณปกรณ์ หรือนามเดิม ป่วน บูรณศิลปิน) เมื่อ 23 ธันวาคม พ.ศ. 2479 มีหม่อมเจ้าพิจิตรจิรภา เทวกุล ประทานงานสมรสให้ เนื่องจากบิดาไม่ยอมให้แต่งงานเพราะรังเกียจอาชีพนักเขียนไส้แห้งของป.บูรณปกรณ์ มีธิดาและบุตร 2 คน คือ นุปกรณ์ (ตุ๊ดตู่) และกิติปกรณ์ (ติ๊ดตี่) เมื่อ ป.บูรณปกรณ์ถึงแก่กรรมแล้ว (พ.ศ. 2495) ต่อมาจึงสมรสใหม่ กับเล็ก เคียงศิริ[8]
ก.สุรางคนางค์ถึงแก่กรรมด้วยโรคชรา เมื่อเช้าวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2542[9] ที่บ้านซอยอ่อนนุช มีพิธีพระราชทานเพลิงศพเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2542 ณ วัดธาตุทอง
รักประกาศิต (สร้างเป็นละครโทรทัศน์ 4 ครั้ง 2520 ช่อง9 2531และ2555 ช่อง3 2543 ช่อง7)
บ้านทรายทอง (สร้างเป็นละครโทรทัศน์ 5 ครั้ง 2511 ช่อง4บางขุนพรหม 2521 ช่อง9 2530และ2548 ช่อง7 2543 ช่อง3)
นานาชาติ | |
---|---|
ประจำชาติ | |
อื่น ๆ |